ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เรียกร้องให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในทันที ตามข้อกล่าวหาเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เจาะล้วงข้อมูล หรือแฮก โทรศัพท์มือถือของนายเจฟฟ์ เบซอส มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทค้าปลีกออนไลน์ “แอมะซอน”
สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเป็นเรื่อง “บ้าบอคอแตก”
แต่ 2 ผู้เชี่ยวชาญอิสระของยูเอ็นคือ นางแอกเนส คัลญามาร์ ชาวฝรั่งเศส ผู้เชียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับการประหารชีวิตแบบรวบรัดและวิสามัญฆาตกรรม และนายเดวิด เคย์ ชาวอเมริกัน ผู้เขียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็น กล่าวว่า ต้องมีการสอบสวน ความเกี่ยวพัน “ที่เป็นไปได้” ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด
ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับเบซอส ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ด้วย เสื่อมทรามลง หลังจากนายจามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุฯ ซึ่งเป็นนักเขียนประจำของวอชิงตัน โพสต์ และเป็นผู้วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯคนสำคัญ ถูกฆาตกรรมโหดในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในเมืองอิสตันบูลของตุรกีเมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยการสังหารเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือน หลังจากมีการเจาะล้วงข้อมูลทางโทรศัพท์ของเบซอส ตามข้อกล่าวหา
หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ ซึ่งรายงานการเจาะข้อมูลเป็นรายแรก ระบุว่า โทรศัพท์มือถือของเบซอสถูกแฮก หลังจากได้รับข้อความสื่อสารทาง ว็อทซ์แอพ ในเดือน พ.ค. 2561 ที่ถูกส่งจากบัญชีส่วนตัวของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด
รายงานระบุอีกว่า การสอบสวนการแฮกข้อมูลพบว่า โทรศัพท์ของเบซอสเริ่มแชร์ข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างลับ ๆ หลังจากเขาได้รับไฟล์วิดีโอเข้ารหัส