ตอบคำถามฉับๆๆ ! "ฟ้าใส" ปัดดราม่าไม่กินเส้น "โจ้ Surface"

2020-01-15 16:35:52

ตอบคำถามฉับๆๆ ! "ฟ้าใส" ปัดดราม่าไม่กินเส้น "โจ้ Surface"

Advertisement

กลายเป็นขวัญใจเหล่าแฟนนางงามกันทั้งประเทศสำหรับสาว "ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น" หลังทำผลงานเข้ารอบ 5 คนในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ได้อย่างสวยงาม งานนี้พอเจอเจ้าตัวเลยขออัพเดตเรื่องงานและดราม่าต่างๆ ได้ความว่า

อัพเดตชีวิตหลังที่กลับมาจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ?
ก็มีเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกันนะคะ แต่ว่าตอนนี้ก็รู้สึกว่าเหมือนได้ทำฝันเต็มที่ ดีใจที่คนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของฟ้าใสด้วย ดีใจที่ทำให้ทุกคนภูมิใจ ก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งอีเวนต์ แคสติ้ง อยากจะฝากติดตามผลงานในเร็วๆ นี้ ช่วงนี้ก็ขออุบเอาไว้ก่อน พอทุกอย่างคอนเฟิร์มแล้วก็ออกมาจริงๆ เดียวจะโปรโมตอีกที





เป็นผลงานในแนวไหน ?
มีหลากหลายแนว



เราอยากทำอะไรเป็นพิเศษหลังจากเสร็จสิ้นการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ?
จริงๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากทำหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านวงการบันเทิง หรือว่าจะเป็นด้านครูสอนบุคลิก หรือว่าการพรีเซนต์ตัวเอง

หลายคนคิดถึงเพราะไม่ค่อยออกอีเวนต์หรือออกสื่อ ?
ใช่ ส่วนใหญ่จะเป็นงานไพรเวทมากกว่า เป็นงานปิดเลย เลยทำให้แฟนคลับติดตามค่อนข้างยาก แต่เวลามีงานเปิดฟ้าใสก็จะโพสต์





มีการเปรียบเทียบกับนางงามรุ่นพี่ที่พอกลับมาจากการประกวดจะออกอีเวนต์บ่อย แต่ฟ้าใสไม่ออกเลย ?
ไม่ส่วนหนึ่งจะมีช่วงที่เราพักตา ตอนนั้นที่ไปประกวดแล้วมันอักเสบ จริงๆ มันเป็นตั้งแต่ตอนประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้ว แต่พอไปประกวดที่แอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เริ่มทรุดมาวันสองวัน กลับมาเลยพักเต็มที่ก่อนลุยกับงาน

กลัวเสียโอกาสไหม ที่พอเรากลับมาแล้วกระเเสแผ่วๆ ลง ?
ไม่หนูไม่ได้มองว่า หนูจะอยู่ในกระเเสช่วงนั้นช่วงเดียว หนูเชื่อว่าแฟนคลับของหนูที่รักหนูมากๆ เขาจะติดตามผลงานหนู ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม



ฟ้าใสมองชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไร ?
จะบอกว่าชีวิตในวงการบันเทิงมีโอกาสเข้ามามากน่าจะเป็นในด้านการถ่ายนิตยสาร ด้านเดินแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ งานละครก็มีเข้ามาติดต่อไปแคสติ้ง รวมถึงโฆษณาต่างๆ คือโอกาสมันเพิ่มเข้ามาเยอะอยู่แล้ว ดีใจมากๆ



ซีเรียสไหมกับการนำเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ?
ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะการอยู่ในวงการแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใดๆ ก็จะมีการกดดันหรือเปรียบเทียบ



หลายคนมองว่ากระเเสนางงามมาเร็วไปเร็ว เรามองอย่างไร ?
จริงๆ ก็เข้าใจ เพราะว่าการเป็นนางงามจะมีช่วงเวลาแค่ 1 ปี ในการดำรงตำแหน่ง แต่ก็มีคนบอกไว้ว่าตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นานแต่ตำนานจะอยู่กับเราตลอดไป

เราต้องวางแผนกับชีวิตของเราอย่างไรบ้าง ?
ต้องมองว่าเราสามารถทำหน้าที่การเป็นนางงามได้ปีหนึ่ง แต่นอกเหนือจากนี้เรายังมีโอกาสไปวงการบันเทิง หรือว่าวงการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งหน้าจอหรือหลังจอ ก็ต้องไปในด้านอื่นบ้าง



แสดงว่าฟ้าใสสนใจในงานด้านการบันเทิง ?
ก็ด้วย แต่ว่าก็สนใจอยากเป็นเบื้องหลังด้วย เวลาที่เทรนรุ่นน้องต่อ

ปีนี้เรายังต้องทำอะไรกับกองประกวดอีกไหม ?
ก็คิดว่าน่าจะมีนะคะ แต่จริงๆ ก็มีรุ่นน้องที่ตั้งใจจะมาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยเเลนด์ 2020 ก็ติดต่อเข้ามาอยากให้สอนเรื่องการตอบคำถาม

ถ้ามีงานเข้ามาต้องติดต่อผ่านทางกองประกวดก่อนไหม ?
ในด้านเบื้องหน้าก็ต้องติดต่อผ่านกองก่อน แต่ถ้าถ้าเบื้องหลัง อาทิ การเป็นครูส่วนมากก็ติดต่อมาโดยตรง



ที่บอกว่าอยากเทรนน้องที่จะมาเข้าประกวด พี่ลูกเกด เมทินี ว่ายังไงบ้าง ?
ไม่ คือพี่ลูกเกดเขาจะเทรนระหว่างที่เก็บตัว แต่นี่จะเทรนน้องๆ ที่อยากจะมาสมัครแต่ไม่มั่นใจในเรื่องของการตอบคำถาม อยากจะให้มีคนช่วยเทรน เขาก็เลยติดต่อมาโดยตรง

เราจะเป็นติวเตอร์ด้วย ?
ใช่ค่ะ เป็นเหมือนเมนเทอร์ แต่เป็นเมนเทอร์คนละเเบบกับพี่ลูกเกด เพราะพี่ลูกเกดจะไปลงลึกกับคนที่เข้ารอบเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่หนูจะสอนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือการเป็นนางงาม

มีติดต่อเข้ามาเยอะไหม ?
ก็ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเปิดเป็นคอร์สจะดีไหม แต่ก็ต้องดูอีกที



ถามถึงช่วงต้นปีมีดราม่า #saveฟ้าใส ?
หนูเห็นแท็กแต่ไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไร (หัวเราะ)

หลายคนมองว่าเป็นเรื่องทีมงานที่ทำชุดให้ฟ้าใสมีการพูดพาดพิงถึง ?
เรื่องนี้หนูยังไม่ทราบ เพราะว่ายังไม่ได้พูดคุยเรื่องด้านดราม่าหลังจากประกวดเสร็จ ได้คุยเฉพาะตอนที่ก่อนประกวด ซึ่งได้คุยกับทุกๆ คน เพราะเขาเข้ามาช่วยในการเตรียมตัวไปประกวด ทั้งนี้หลังจากประกวดเสร็จเหมือนว่าทุกคนก็ใช้เวลากับการพักผ่อนทั้งหมด

หลายคนพุ่งเป้าไปที่พี่โจ้ Surface คนที่ออกแบบชุดให้ ?
เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ

มีคนบอกว่าเป็นการโพสต์เกาเหลากัน ว่ามีปัญหากับพี่โจ้ Surface เลยมาเซฟเราว่าไม่ต้องสนใจคำพูดของคนนั้นคนนี้ ?
เท่าที่อ่านๆ ยังไม่มีเรื่องที่ชัดเจนว่า เกี่ยวกับหนู หนูเลยไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียดมาก



เรากับพี่โจ้ Surface ความสัมพันธ์เป็นยังไง ?
ก็ดีนะคะ เขาก็ช่วยในการทำรีกรุ๊ปในการไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส แล้วก็มีการทำชุดราตรีรอบไฟนอล

ได้คุยอะไรกับพี่เขาไหม ?
ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกัน เพราะพี่โจ้ จะพักผ่อนด้วย ปีใหม่ด้วย รวมไปถึงได้ข่าวว่าจะมีการตัวสำหรับการประกวด ปี 2020 เพื่อที่จะให้มง 3 มาแน่ในรุ่นต่อๆ ไป

ฟ้าใสมองแฟนนางงามอย่างไรบ้างกับการพูดถึงการประกวดของเราทั้งด้านที่ดีและไม่ดี ?
ก็มองว่าจะพูดดีหรือไม่ดี ก็เป็นกระเเสในระดับหนึ่ง แล้วก็ดีใจที่ทุกคนยังคิดถึงและพูดถึงฟ้าใสอยู่ ต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตามแม้ว่าการประกวดจะจบไปแล้ว แต่ก็ยังคอยสนับสนุนแล้วก็ติดตามว่าผลงานมีอะไรบ้าง

ดราม่าต่างๆ ทำให้เราเครียดไหม ?
ดราม่าต่างๆ คือช่วงนี้ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีดราม่า คือหนูคิดว่าดราม่าทุกอย่างจะมาในช่วงก่อนที่จะไปประกวด

เวลาเจอแบบนี้ มีเก็บไปคิดหรือเครียดไหม ?
ถ้าสมมติว่าอยู่ในช่วงที่เรากำลังประกวด ส่วนใหญ่หนูจะไม่เข้าไปดูในเรื่องกระเเส หรือดราม่าอะไร เพราะช่วงที่เราประกวดสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด คือเรื่องของการซัพพอร์ต การสนับสนุน และกำลังใจคิดบวก ซึ่งเราจะได้จากกลุ่มที่อยู่ใกล้ๆ เรา และกลุ่มที่ติดตามเราที่รู้จักเราจริงๆ ซึ่งหนูก็จะดูกลุ่มนี้เวลาหนูไปประกวด แต่หลังจากที่ประกวดมาแล้วหนูไปอ่านมันก็แบบ (หัวเราะ) ดูตลกบ้าง บางทีคนที่บอกว่าเป็นวงในก็ไม่ใช่วงในจริงๆ เพราะคนที่วงในจริงๆ ก็เป็นแค่เรากับเขาที่รู้จริง ว่าเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ก็อ่านแล้วบันเทิงดี



แสดงว่าเรามีภูมิคุ้มกันแล้ว ?
โอโห้ หนูประกวดมาหลายปีแล้ว

เรียกว่าชินสำหรับกระแส ?
หนูจะพูดว่า ครั้งแรกมันจะเจ็บสุดพี่ แต่พอนานๆ เข้าความเจ็บก็จะลดน้อยลง แต่ถามว่าจะชินเลยทีเดียวไหม หนูคิดว่าคงไม่มีใครพออ่านข่าวเชิงลบแล้วไม่รู้สึกอะไร

ครั้งแรกเจ็บสุดถึงขั้นมีน้ำตาไหม ?
หนูขั้นถึงเสียเซลฟ์ไปเลย ทำไมเขาถึงว่าหนูแบบนี้อะ ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยคิดว่าหนูเป็นแบบนี้เลย มันก็เป็นเรื่องรูปร่างหน้าตาหุ่น คือมันครั้งแรกในที่นี้คือครั้งแรกที่ว่าเรา แต่การว่าเรามันมีหลากหลายแบบ ที่เจ็บสุดมันไม่ใช่ทำให้เราเสียเชลฟ์ แต่อันที่เจ็บสุดคือเรื่องที่เขาพูดเเล้วมันไม่ใช่เรื่องที่เป็นความจริง แต่คนอื่นเชื่อโดยที่ไม่มาถามเรา แล้วถึงแม้เราพูดอะไรออกไปเขาเชื่อสิ่งแรกที่เป็นเรื่องเท็จไปแล้ว โดยที่มองว่าหนูแก้ตัว แล้วไม่ให้โอกาสเราออกมาพูดความจริง

เรียกว่าแข็งแรงขึ้น ?
มันก็มีกำแพงที่ตั้งไว้ให้ แบบปกป้องหัวใจมากขึ้น และรู้สึกว่าควรจะต้องแคร์คนที่รู้จักเราจริงๆ มากกว่าคนที่ไม่ได้รู้จักเรา แล้วก็พูดอะไรก็ได้ แข็งแรงขึ้น ก็อยากให้ก่อนที่จะพูดอะไร ให้ฟังความสองด้าน