ไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดีจึงจะเหมาะสม กับปฏิบัติการสุดเหี้ยม บุกเดี่ยวกราดยิงผู้คนที่บริสุทธิ์ เสียชีวิตอย่างน้อยเบื้องต้น 3 ศพ ขณะที่ข่าวล่าสุดจากสื่อบางสำนัก ระบุตายถึง 5 ราย
เหตุเกิดที่ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดลพบุรี
มือปืนจากนรกแต่งกายรัดกุม สวมชุด"ไอ้โม่ง"คลุมหน้า นุ่งกางเกงลายพราง สวมรองเท้าคล้ายท็อปบู้ท ในมือถือปืนสั้นลักษณะเหมือนกึ่งอัตโนมัติ คาดว่าเป็นปืนขนาด 9 มม. ปลายปากกระบอกปืน มีอุปกรณ์คล้ายที่เก็บเสียงเชื่อมต่ออยู่
มันไม่พูดพล่ามทำเพลง แหวกกลุ่มลูกค้าในร้านก่อนกราดยิงอย่างอำมหิตใส่ผู้คนและเจ้าหน้าที่ร้านทอง ก่อนกระโดดขึ้นบนเคาท์เตอร์ ทุบกระจกกวาดเอาทองที่แขวนโชว์ใส่กระเป๋าสะพายสีแดงคาดขาว คาดว่าอาจมากถึง 100 บาททอง ก่อนจะวิ่งออกจากร้าน พร้อมยิงสังหารรปภ.ห้างอีก 1 คน ก่อนหลบหนีโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ
สิ่งที่น่าทึ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนร้ายวางแผนและเตรียมการมาอย่างหนี คือสามารถหลบหนีสลัดการติดตามได้ในที่สุด
เท่ากับทั้งชำนาญและคงดูลาดเลาตลอดเส้นทางที่ใช้หลบหนี รวมทั้งภายในห้างที่ใช้ก่อเหตุ นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ว่า น่าจะเป็นมืออาชีพ บ้างก็ไปไกลถึงขั้นน่าจะเป็นคนในเครื่องแบบ และโฟกัสไปที่ทหาร แต่ก็ไม่มีหลักฐานสนับสนุนใดๆ อีกทั้งในทางปฏิบัติ ทหารซึ่งถูกอบรมสั่งสอนให้รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์และประชาชน คงไม่มีรายใดไปลงมือด้วยการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์แม้กระทั่งเด็กที่ยังไร้เดียงสาอย่างนี้
นายตำรวจใหญ่ ต่างนั่งไม่ติดที่ ไม่เพียงผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 เจ้าของพื้นที่ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร เท่านั้น ที่เผยแพร่ภาพคนร้ายไปตามกลุ่มไลน์ที่มีสมาชิกหลายหมื่นคนเพื่อช่วยแจ้งเบาะแส ยังรวมถึง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ที่เพิ่งจะมีคลิปเสียงโดนเบรคทำนองไม่ให้ยุ่งกับคดียิงรถ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักผาล อดีต ผบช.สตม. กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งอยู่ระหว่างลาพักเดินทางไปต่างประเทศ ก็สั่งการข้ามทวีปกำชับให้เร่งรีบติดตามคนร้าย พร้อมประกาศให้รางวัล 1 แสนบาทสำหรับผู้แจ้งเบาะแสให้ตำรวจทราบ
ไม่เพียงเท่านั้น "บิ๊กแป๊ะ" ซึ่งกำลัง "งานเข้า" เรื่องคดีเบื้องหลังยิงถล่มรถ "บิ๊กโจ๊ก" ยังส่งสัญาณไฟเขียวถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้มาตรการ "เด็ดขาด" ได้ หากคนร้ายขัดขืนหรือพยายามหลบหนี
แปลเป็นภาษาชาวบ้าน คือ "จับตาย" ได้นั่นเอง เนื่องจากรู้ดีว่า คดีนี้สะเทือนขวัญประชาชนอย่างมาก กับปฏิบัติการโหดที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย เพราะไม่จำเป็นต้องฆ่าผู้บริสุทธิ์ แค่ยิงปืนขึ้นฟ้า หรือตะโกนขู่ ชาวบ้านก็กลัวจนหัวหดหมดแล้ว
ที่สำคัญรับประกันได้เลยว่า "บิ๊กแป๊ะ" ต้องรีบบินกลับประเทศไทย เพื่อเร่งสะสางคดีแน่ๆ
ขณะที่โลกโซเชียล มีการเผยแพร่ข่าวคราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างล้นหลาม พร้อมๆกับความเห็นของผู้คนบนโลกโซเชียล ซึ่งมีทั้งเสียงก่นด่า สาปแช่ง ทวงถามว่าจิตใจทำด้วยอะไร และที่สำคัญ เรียกร้องให้ลงโทษอย่างสาสมด้วยการประหาร หากตำรวจสามารถจับกุมตัวได้
เป็นการแสดงออกอย่างมีพลังอีกครั้งหนึ่งในโลกโซเชียล ซึ่งจะส่งให้มีแรงกดดันมหาศาลสำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการคลี่คลายคดีนี้
ขณะเดียวกัน ก็จะเป็นแรงกดดันสำหรับคนร้ายที่ลงมืออย่างเลือดเย็นแต่เลวร้ายจนเสมือนไม่ใช่คน รวมถึงญาติๆที่จะนั่งก้นไม่ติดพื้น
พลังทางสังคม หรือพลังโซเชียล จะมีบทบาทที่ร้อนแรงที่สุดสำหรับคดีนี้
