ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศ ก็พลาดครั้งใหญ่อยู่ดี
กรณีให้สัมภาษณ์สื่อ รู้ล่วงหน้า 1 วันก่อนสหรัฐปฏิบัติการเด็ดชีพนายพลกัสเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษกุดส์ คนที่นิตยสารไทม์เคยจัดอันดับอยู่ใน 100 บุคคลผู้มีอิทธิพลต่อโลก ปี 2560
แม้จะใช้คำพูดว่า "ทางสหรัฐได้ประสานมายังไทยเมื่อวันที่ 2 มกราคม 63 ว่าเขามีเหตุที่ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มีการติดต่อกับอาเซียนอยู่แล้ว โดยแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 วันเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่า จะมีอะไรเกิดขึ้น" แต่ก็ตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากปฏิบัติการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ยิงถล่มใส่ขบวนรถของนายพลโซไลมานี
เมื่อคำพูดดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปตามสื่อ ได้สร้างปฏิกริยาในเชิงวิพากษณ์วิจารณ์ตามมาในวงกว้าง โดยเฉพาะความเหมาะสม หรือจำเป็นต้องพูดประโยคนี้ผ่านสื่อหรือไม่
ยิ่งในฐานะของการเป็นนักการทูตมายาวนาน รวมทั้งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา ก่อนจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี นายดอนย่อมยิ่งต้องรู้ความเปราะบางของคำพูดบางประโยคที่นักการทูตต้องระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง หาไม่แล้วจะเป็นการ "ชักศึกเข้าบ้าน" เรียกงานใหญ่เข้าประเทศให้ปวดหัวและตกเป็นเป้า ทั้งภายในและนอกประเทศ
นายดอนจึงกลายเป็น "ตำบลกระสุนตก" ทันควัน เสียงวิจารณ์ดังอึงมี่จากหลายๆฝ่าย มีคำเปรียบเปรยหลากหลาย อาทิ ผีเจาะปาก ไม่พูดไม่มีใครว่า เป็นต้น
ถึงแม้นว่า เจ้าตัวอาจได้ข้อมูล หรือได้รับการประสานจากทางสหรัฐมาจริงๆ ก็ไม่ควรจะพูดออกไปเช่นนั้นอยู่ดี
เพราะเสมือนได้รับรู้จากฆาตกรก่อนลงมือฆ่าคน แจ้งข่าวให้ทราบก่อนจะไปลงมือปลิดชีพคนอย่างที่ว่า
คำถามยังไม่จบแค่นั้น เพราะอาจมีถามตามมาด้วยว่า เมื่อได้รับแจ้งดังกล่าวแล้ว นายดอนได้แสดงท่าทีอย่างใดหรือไม่ หรือนิ่งเฉย กับปฏิบัติการครั้งนี้
แม้อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ จะออกโรงแจงหวังสยบกระแสข่าวร้อนนี้ โดยระบุว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แต่ก็ไม่มีใครแจกแจงเพิ่มเติมว่า คำว่าคลาดเคลื่อนหมายถึงอะไร ได้รับการประสานมาจริงจากทางสหรัฐ แต่ข้อมูลคลาดเคลื่อน หรือได้รับข้อมูลมาชัดเจน แต่ถ่ายทอดออกไปแล้วคลาดเคลื่อน เพราะ 2 อย่างนี้แตกต่างไม่เหมือนกัน
กลับปล่อยคาราคาซังให้มีเสียงวิจารณ์และกังขากับคำพูดของระดับรัฐมนตรีอยู่เกือบ 2 วัน ก่อนที่นายดอนจะออกมายอมรับว่า ข้อมูลคลาดเคลื่อน เหมือนกับคำแจกแจงของโฆษกกระทรวง ตปท. แต่เหมือนเดิม คือไม่มีอธิบายอะไรเพิ่มเติม
นายดอนได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนเลื่อนชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการเต็มตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2558
เป็นหนึ่งในรัฐมนตรี 9 คน ที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขณะเป็นทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องต่อกกต.ให้ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี กรณีภริยาถือหุ้นในบริษัทที่เป็นกิจการครอบครัวและมรดก โดยไม่ได้แจ้งต่อ ปปช. รวมทั้งไม่ได้แจ้งเรื่องถือหุ้นเกินกว่า 5% ที่กฎหมายกำหนดไว้ เมื่อกกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และมีเสียงเรียกร้องให้แสดงสปิริตพักการทำหน้าที่รัฐมนตรีจนกว่าจะมีคำตัดสิน นายดอนให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าจะถามหาสปิริต ต้องไปถามหาจากนักกีฬา
หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ระหว่างการจัดทำโผ ครม. และมีรายชื่อนายดอนปรากฎในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศด้วย นายดอนได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ต้องการพัก ขอวางมือ แต่สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ก็เลือกนายดอนเพื่อให้สานต่อภารกิจการประชุมผู้นำอาเชียนที่นายกฯไทยเป็นประธานอาเซียน
แต่เมื่อเผลอพูดเรื่องรู้ล่วงหน้า 1 วันก่อนสหรัฐถล่มอิรักสังหารนายพลอิหร่าน นอกจากจะช่วยเปิดช่องให้ฝ่ายค้านนำไปใช้เพิ่มเนื้อหาและน้ำหนักการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพิ่มเติมจากเดิมแล้ว ยังอาจทำให้นายดอน มีโอกาสจะได้พักจากตำแหน่งรัฐมนตรีสมใจอยาก
จับตาหลังศึกซักฟอกรัฐบาลให้ดี จะเป็นช่วงปรับเปลี่ยน ครม. รอคอยเป็นปกติอยู่แล้วครับ
