"บิ๊กโจ๊ก" รู้คนบงการยิงรถ โยงยกเลิก “ไบโอเมทริกซ์” (คลิป)

2020-01-08 15:00:39

"บิ๊กโจ๊ก" รู้คนบงการยิงรถ โยงยกเลิก “ไบโอเมทริกซ์” (คลิป)

Advertisement

"บิ๊กโจ๊ก" เผยรู้ตัวคนบงการยิงรถเป็นผู้มีอำนาจ เชื่อเอี่ยวปมยกเลิก “ไบโอเมทริกซ์”

จากกรณี 2 ร้ายขี่รถจักรยานยนต์บุกยิงรถยนต์เลกซัสของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีต ผบช.สตม. ภายในซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ ย่านบางรัก กทม. เมื่อคืนวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีร่องรอยถูกกระสุนปืนยิง จำนวน 8 นัด ข้างตัวรถด้านซ้าย

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.40 น.วันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางมายัง สน.บางรัก เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยก่อนเข้าให้ปากคำว่า วันนี้ตนมาตัวเปล่า ที่ผ่านมาพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวมาเป็นปี ไม่น่าจะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ต้องกังวลใจว่าตนจะไปสร้างภาพ สร้างสถานการณ์ต่างๆ สิ่งที่ตนถูกกระทำที่ลับมันก็มากพอแล้ว วันนี้รถตนก็เสียหายมาก มันไม่มีมูลเหตจูงใจที่จะจัดฉาก ตนเป็นตำรวจเก่า ถ้ามีคู่อริกับใครตนต้องรู้ และขอยกตัวอย่าง 2 ปีที่แล้ว รถนักข่าวถูกยิง ก็ต้องรู้ว่าใครยิง นักข่าวเขาก็รู้กันว่าใครยิงแล้วจับคนร้ายได้ไหมก็จับไม่ได้

“เหตุการณ์แบบนี้มาทำกับผม มันต้องไม่เกิดขึ้นแล้ว มันต้องทำตัวให้ประชาชนศรัทธา ประเด็นมูลเหตุมีเรื่องเดียว คือไบโอเมทริกซ์ การตรวจรับงานไบโอเมทริกซ์มันล่าช้าไป 100 กว่าวัน ผมเองก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้หน่วย มันเป็นภาษีของประชาชน เมื่อผมตัดสินใจเซ็นหนังสือถึงท่าน ผบ.ตร. เมื่อผมตัดสินใจแล้วผมต้องกล้ารับ การตัดสินใจของผมก็เพื่อหน่วยและประเทศชาติ" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ถ้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจจริงๆ ไม่มีใครกล้าทำกับตน ซึ่งน่าจะเป็นคนเดียวกับคนที่ยิงรถนักข่าว ซึ่งหากถ้าตนเป็น ผบ.ตร. จับคนแบบนี้ไม่ได้ ตนก็จะต้องรับผิดชอบ กล้องวงจรปิดมันเต็มไปหมด จะจับไม่ได้ ได้ยังไง คดีของตนวันนี้วันที่ 3 แล้ว ยังไม่มีวี่แววอะไรเลย แต่ตนไม่ตำหนิใคร และไม่ได้ท้าชนใคร มันต้องเอาความจริงให้ปรากฎ ถ้าไม่มีความผิดจริงๆตนไม่กล้าเซ็นยกเลิกไบโอเมทริกซ์ไม่อย่างนั้นบริษัทเขาก็ต้องฟ้องตนแล้ว