วงจรปิดเปิดภาพ 2 คนร้ายลงมือรัวกระสุนใส่รถ “บิ๊กโจ๊ก” ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์เล่านาทีคนร้ายชักปืนยิง ขณะที่ “พล.ต.อ.วิระชัย” ชี้คนร้ายทราบความเคลื่อนไหว “บิ๊กโจ๊ก” สันนิษฐานคนยิงชำนาญในการใช้ปืน แต่จะเป็นมือปืนหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ตัดประเด็นชู้สาว ขัดแย้งทางธุรกิจทิ้ง เชิญ “บิ๊กโจ๊ก”สอบอีกครั้ง 8 ม.ค.
จากเหตุคนร้ายลอบยิงถล่มรถของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม. เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านนวด ในซอยสาริกา ย่านบางรัก กทม. เมื่อคืนวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ม.ค. ทีมข่าวนิว 18 ไดลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยแม่ค้าร้านเสื้อผ้า ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับทีมข่าวนิว 18 ว่า ปกติเห็นบิ๊กโจ๊กเข้ามาใช้บริการร้านนวดอยู่เป็นประจำ เพราะร้านนวดแผนโบราณ 2 ร้านในซอยนี้ฝีมือดีและขึ้นชื่อ เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะเกิดเหตุตนกำลังขายของอยู่ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตกใจจึงรีบวิ่งหนีออกจากร้าน เมื่อตั้งสติได้จึงทราบว่ารถบิ๊กโจ๊กถูกยิงถึง 7 นัด คิดว่าคนร้ายต้องหมายเอาชีวิตเนื่องจากเจาะจงยิงที่ตัวรถ
แม่ค้ายังบอกอีกว่า จุดนี้เวลากลางคืนจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ แต่เมื่อคืนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวใส่หูฟัง กำลังฟังเพลงจึงไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทีมข่าวนิว 18 ได้สอบถามพนักงานร้านนวดรายหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ด้านในสุดของซอย ระบุว่า เพื่อนของตนเห็นคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาในซอย ลักษณะสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีทึบ โดยคนร้ายเข้ามาทำทีกลับรถบริเวณหน้าร้าน ก่อนขับออกไปใกล้ถึงปากซอยแล้วชักปืนออกมายิงรถของบิ๊กโจ๊กก่อนขับหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ซึ่งมีทั้งตำรวจสืบสวนนครบาล ตำรวจสืบสวนนครบาล 6 สน.บางรักและสน.ปทุมวัน โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชม. ก่อนจะเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้แบ่งงานกันไปลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้ายเพิ่มเติม ซึ่งผลจากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า คนร้ายทราบความเคลื่อนไหวของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์เป็นอย่างดี ทั้งรถที่ใช้ส่วนตัว สถานที่ที่ไปใช้บริการบ่อย และยังศึกษาเส้นทางมาแล้ว ก่อนจะมาลงมือก่อเหตุ สันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นผู้มีความชำนาญในการใช้ปืน แต่จะเป็นมือปืน หรืออยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังใดของฝ่ายสืบสวนหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ ขณะที่ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากพล.ต.ท.สุรเชษฐ์แล้ว โดยสามารถตัดประเด็นชู้สาวออกไปได้ก่อน ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจ ก็ไม่พบว่ามีการประกอบธุรกิจใด หรือขัดแย้งส่วนตัวเรื่องใดกับใคร ส่วนที่มีกระแสสังคมตั้งประเด็นสงสัย เช่น เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อระบบไบโอเมตริก หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือไม่ ทางการสืบสวนยังไปไม่ถึงตรงจุดนั้น
ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดได้จับภาพ 2 คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาป้วนเปี้ยนแถวรถ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ 2-3 รอบ ก่อนลงมือรัวกระสุนใส่แล้วขี่หลบหนีไป อย่างไรก็ตามตำรวจได้นัดหมาย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาสอบปากคำที่ สน.บางรักในวันที่ 8 ม.ค. เวลา 12.30 น.เชื่อว่าผลการสอบปากคำดังกล่าว จะทำให้มีความชัดเจนขึ้นได้ว่า คนร้ายทำไปเพื่อหวังวัตถุประสงค์ใด