พบนักโทษป่วยไทรอยด์เพิ่ม เตรียมเจาะเลือดใหญ่ 7 ม.ค.

2020-01-05 17:40:39

พบนักโทษป่วยไทรอยด์เพิ่ม เตรียมเจาะเลือดใหญ่ 7 ม.ค.

Advertisement

สสจ.พิษณุโลก ตรวจคัดกรองผู้ต้องขัง 3,000 ราย เสร็จเรียบร้อย ป่วยภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง และมีภาวะโปตัสเซียมในเลือดต่ำ ทำให้แขนขาอ่อนแรง หัวใจเต้นเร็ว ส่งแอดมิจโรงพยาบาลทันที 24 ราย เฝ้าระวังรักษาทางยา 690 ราย พบสาเหตุน่าจะเกิดจากอาหารที่มีฮอร์โมนไทยรอยด์สูง ต้องรอผลพิสูจน์ยืนยันแน่ชัด เตรียมเจาะเลือดใหญ่ผู้ต้องขังทั้งหมด 7 ม.ค.นี้

วันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก มีอาการป่วยแขนขาอ่อนแรงจำนวนมาก และเสียชีวิตจำนวน 4 ราย ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเช้าวันนี้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ประชุมให้การช่วยเหลือผู้ป่วยภายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รอง ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปสถานการณ์กรณีผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงเป็นจำนวนมากของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก

ภายหลังการประชุม นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นพ.สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ผู้ต้องขังเสียชีวิตไล่เลี่ยกันดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2562 เสียชีวิต 1 ราย และ วันที่ 30 ธ.ค. 2562 เสียชีวิตจำนวน 2 ราย และมีผู้ต้องขังทยอยป่วยต่อเนื่องและมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย รวมทั้งสิ้น 4 ราย ต่อมาวันที่ 4 ม.ค.2563 ได้ส่งทีมแพทย์เข้าไปในเรือนจำ พร้อมกับทีมสอบสวนโรค หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ระดมสาธารณสุข จาก 9 อำเภอ พร้อมเครื่องมือ เพื่อตรวจชีพจรผู้ต้องขัง ถ้ามีสัญญาณชีพจร ผิดปกติก็จะทำการเจาะเลือด ตรวจอีกครั้งเพื่อทำการรักษา ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในจังหวัดพิษณุโลกมีเป้าหมายเดินทางมาที่เรือนจำเพื่อตรวจคัดกรองผู้ต้องขังป่วย จำนวนทั้งหมดกว่า 3,000 คน ให้แล้วเสร็จครบ 100% เมื่อคืนนี้ช่วง 22.00 น. ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจผู้ต้องขังทั้งหมดเมื่อคืนนี้พบว่าภาวะที่เกิดขึ้นกับผู้ต้องขังที่ป่วย จากการสุ่มตรวจพบผลเลือดออกหมดแล้ว มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง และมีภาวะโปตัสเซียมในเลือดต่ำ สาเหตุสงสัยเรื่องอาหาร แต่ที่ยังไม่ฟันธง 100% เพราะผลตรวจอาหารยังไม่มา ต้องรอผลแล็ป 1-2 สัปดาห์




นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นพ.สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยต่ออีกว่า เมื่อคืนได้ตรวจจนหมด 3,000 คน พบว่ามีคนที่มีหัวใจเต้นเร็ว คือ เหมือนกับมีปัญหาเรื่องไทรอยด์ฮอร์โมนที่เกิน พบ 690 คน ซึ่งในเบื้องต้นจะคัดแยกเป็น 2 กลุ่ม ใน 690 คน กลุ่มที่ 1 คืออาการไม่หนักมาก หมายถึงมีหัวใจเต้นเร็วไม่มาก เราให้ยารักษาในเรือนจำขณะนั้นเลย แล้วจะมีการติดตามเอายาไปให้ทุกวัน

ส่วนกลุ่มที่ 2 คนที่หัวใจเต้นเร็วมาก คือไปวัดหัวใจบางคนเต้น 130-140 ต่อนาที คนปกติประมาณ 80 ต่อนาที อันนี้คือภาวะเร่งด่วน เราทำการเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีภาวะรุนแรงเร่งด่วนแค่ไหน แล้วตอนที่เข้าไปพบว่ามีบางส่วนเหมือนกันที่มีภาวะหัวใจเต้นเร็วด้วย และภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วย อันนี้เป็นกรณีเร่งด่วนสุดจำเป็นต้องส่งตัวออกมารักษาข้างนอกที่ รพ. ซึ่งเมื่อคืนได้ส่งมารักษาที่ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวร จำนวน 24 ราย อีกส่วนหนึ่งรักษาตัวที่ รพ.วังทอง



สำหรับภาวะไทรอยด์สูงจะนำไปสู่การมีหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ บางคนใจสั่น มือสั่น และนำไปสู่การมีภาวะโปรตัสเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง ไม่ใช่โรคติดต่อ เกิดจากสาเหตุ 1.ร่างกายสร้างฮอร์โมนตัวนี้ขึ้นมาเองเยอะผิดปกติ คือคนที่ป่วยด้วยโรคไทรอยด์ 2.ได้รับไทรอยด์ฮอร์โมนจากแหล่งภายนอก เช่น ยา หรือ ปนเปื้อนมาจากอาหารและกินเข้าไป ในกรณีผู้ต้องขังทั้งหมดไม่ได้เกิดจากร่างกายของเขาเอง แต่น่าจะเกิดจากการได้รับไทรอยด์ฮอร์โมนจากภายนอก และที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คือเรื่องของอาหาร แม้ว่าจะปรุงสุกแล้ว ก็ไม่ได้มีผลกับการจัดการไทรอยด์ฮอร์โมน เพราะสามารถทนความร้อนได้

สำหรับผู้ป่วย 690 ราย ที่พบผิดปกติจะให้ทานยาทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย พร้อมกับวางแผนไว้ว่าในวันที่ 7 ม.ค. จะทำการเจาะเลือดผู้ต้องขังทั้งหมด 3,000 ราย เพื่อตรวจหาภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงอีกครั้ง