ร้องศาลปกครองสูงสุดขอไต่สวนฉุกเฉินเบรกค่าผ่านทางโทลล์เวย์

2019-12-20 11:26:49

ร้องศาลปกครองสูงสุดขอไต่สวนฉุกเฉินเบรกค่าผ่านทางโทลล์เวย์

Advertisement

“มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค”ร้องศาลปกครองสูงสุดขอไต่สวนฉุกเฉินหยุดขึ้นราคาค่าผ่านทางโทลล์เวย์


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. ที่ศาลปกครองสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค น.ส.บุญยืน ศิริธรรม นายกสมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค พร้อมด้วย นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เดินทางมายื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน ให้หยุดขึ้นเงินค่าผ่านทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมือง - โทลล์เวย์) โดยคดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด หากยังคงปล่อยให้ขึ้นราคาค่าผ่านทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมือง - โทลล์เวย์) จะส่งผลกระทบอันก่อให้เกิดความเดือดร้อนและเสียหายต่อประชาชนและผู้บริโภคในวงกว้าง อีกทั้งเพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาจะถึงที่สุด



น.ส.สารี กล่าวว่า ทางมูลนิธิฯ รู้สึกผิดหวังที่กรมทางหลวงไม่ยอมทำอะไร หลังจากที่มีคำพิพากษาศาลปกครองกลางเมื่อปี 2558 ที่ให้มีการยกเลิกมติ ครม.เกี่ยวกับเรื่องสัมปทาน ซึ่งความเป็นจริงแล้วขณะนี้ประชาชนควรจะได้รับสิทธิ์ในการใช้ทางดังกล่าวโดยที่ไม่ต้องเสียเงิน เนื่องจากสัญญาสัมปทานได้สิ้นสุดไปตั้งแต่ปี 2557 แต่เนื่องจากมีการทำตัวเลขขาดทุนที่เกินจริง ทำให้มีการขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก 20 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2577 และยังมอบอำนาจให้เอกชนสามารถปรับขึ้นค่าผ่านทางได้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตหน่วยงานใด ดังนั้น จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรีให้รีบลงมาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งกรมทางหลวงควรรักษาผลประโยชน์ของประชาชนที่ใช้ทางให้มากกว่านี้ อีกทั้งเพื่อรักษาสิทธิและคุ้มครองสิทธิของประชาชนทุกคนด้วย





ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายมานะ โลหะวณิชย์ ประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยเลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ร่วมแถลงเกี่ยวกับกรณีจะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางยกระดับอุตราภิมุข ในวันที่ 22 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน จะมีการปรับขึ้นราคา คณะกรรมาธิการฯ จึงได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงนายกรัฐมนตรีให้มีการระงับการปรับขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์ พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ จะติดตามเพื่อแก้ไขให้กับประชาชนให้ได้