“ยูเนสโก” ขึ้นทะเบียน “นวดไทย” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติประจำปี 2562

2019-12-13 16:25:42

“ยูเนสโก” ขึ้นทะเบียน “นวดไทย” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติประจำปี 2562

Advertisement

"ยูเนสโก"ประกาศรับรอง “นวดไทย” ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2562

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ภก.ปรีดา ตั้งตรงจิตร ผอ.โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ร่วมแถลงข่าวการประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก โดยเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2562 นวดไทย Nuad Thai ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage) จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย



นายอิทธิพล กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลตามภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของยูเนสโก ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 8-14 ธ.ค.2562  ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย มีวาระประกาศผลการพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ The Intangible Cultural Heritage (ICH) ประจำปี 2019 จำนวนรวม 51 รายการ โดยนวดไทย จัดอยู่ในกลุ่ม Representative List of ICH หรือ รายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งในที่ประชุมมีมติรับรองและประกาศให้ “นวดไทย” NUAD THAI ขึ้นทะเบียนในรายการดังกล่าว หลังจากประเทศไทยได้เข้าร่วมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2559 ในลำดับสมาชิกที่ 170 “นวดไทย” เป็นมรดกของไทย รายการที่สอง ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก ต่อจากรายการ “โขน” ที่ขึ้นไปแล้วเมื่อปลายปี 2561





นายอิทธิพล กล่าวว่า การเสนอนวดไทย ในปี 2562 สืบเนื่องจาก ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 3/2559 เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2560 มีมติเห็นชอบการจัดทำข้อมูลโขนและนวดไทย เพื่อเตรียมการเสนอเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก และ ครม.มีมติเห็นชอบ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2560 ตามเอกสารนำเสนอนวดไทย (ภายใต้ชื่อ NUAD THAI) ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก

นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า ด้วยนวดไทย ถือเป็นมรดกภูมิปัญญาที่เป็นศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ดั้งเดิมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่นและพระพุทธศาสนา และเป็นการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตกสมัยใหม่ มีองค์กรที่ส่งเสริมและพัฒนาการนวดมากกว่า 50 องค์กร อาทิ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย รวมถึงภาควิชาชีพ ได้แก่ สภาการแพทย์แผนไทย และยังมีสถาบันการเรียนการสอน สถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั่วประเทศ มีการใช้นวดไทยในการดูแลสุขภาพในครัวเรือนและชุมชนทั่วทุกภาคของประเทศ มีหมอนวดพื้นบ้านทั้งประเทศรวม 25,205 คน มีบุคลากร สถานประกอบการเอกชนที่ให้บริการนวดไทยเพื่อการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพทุกจังหวัด


“นวดไทย นอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศไทย แล้ว เว็บไซต์เดลี่เมล์ สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า ก่อนที่ยูเนสโกจะประกาศให้นวดไทยเป็นมรดกโลกทางภูมิปัญญาอย่างเป็นทางการนั้น การนวดไทย ศาสตร์การแพทย์แผนโบราณที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีของไทย เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยมเดินทางมาใช้บริการแล้ว มีจำนวนมากที่สมัครเรียนนวดแผนไทยในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่วัด วัดโพธิ์ มีผู้สำเร็จวิชานวดแผนไทยตำรับวัดโพธิ์ไปแล้วมากกว่า 2 แสนคน จาก 145 ประเทศทั่วโลก เป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากแก่หมอนวดแผนไทยตามเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน และฮ่องกง

นายอิทธิพล ยังเปิดเผยว่า ที่นวดไทย ได้รับการรับรอง ด้วยมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก ประกอบด้วย 1) นวดไทยสอดคล้องกับลักษณะของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตามที่นิยามไว้ในมาตรา 2 ของอนุสัญญาฯ จัดอยู่ในสาขาความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล เป็นภูมิปัญญาที่มีพัฒนาการเริ่มในระดับครอบครัวและชุมชนเกษตรกรรม และพัฒนาต่อเนื่องมาจนเป็นศาสตร์ในการดูแลสุขภาพที่ใช้มือหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการปรับพลังและโครงสร้างของร่างกายโดยไม่ใช้ยา เพื่อบำบัดความเจ็บป่วยที่เกิดจากลมในเส้นติดขัด และทำให้ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายเป็นปกติ 2) การขึ้นทะเบียนนวดไทยจะเป็นประโยชน์และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แสดงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางทั่วโลก และสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์ จะกระตุ้นให้นานาชาติสนใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหมอนวดไทย คนในชาติร่วมกันปกป้องภูมิปัญญาการนวดไทยไม่ให้ถูกนำไปใช้ในทางเสื่อมเสีย นอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนา อาทิ การคิดค้นอุปกรณ์ช่วยนวดที่เหมาะสมกับกลุ่มชน 3) มีมาตรการส่งเสริมและรักษาอย่างละเอียด ที่สามารถคุ้มครองและส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาฯ นั้นได้ โดยรัฐไทยมีการรับรองสถานภาพทางกฎหมายของภูมิปัญญาการนวดไทย โดยได้วางระบบการคุ้มครองสิทธิในภูมิปัญญาทั้งที่เป็นของชาติและของบุคคล กำหนดมาตรฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับการนวดไทย ทั้งด้านหลักสูตรการเรียนการสอน ด้านผู้นวด ด้านการให้บริการ และด้านสถานที่ให้บริการ รวมทั้งสนับสนุนการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน และคุณสมบัติที่สำคัญ คือ 4) ชุมชน กลุ่มคน และ ปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วม ได้รับทราบ




ให้ความเห็นชอบและยินยอมพร้อมใจอย่างกว้างขวาง ในการเสนอนวดไทย ซึ่งมีการดำเนินการใน ๔ ด้านประกอบด้วย การประชุมรับฟังความคิดเห็นทั้ง 4 ภูมิภาค จำนวน 6 ครั้ง ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รัฐ หมอนวดไทย นักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม มีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการระดับชาติ 3 องค์กรที่เกี่ยวข้องกับนวด โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบและประธานคณะกรรมการเป็นผู้ลงนามในใบยินยอม มีการลงพื้นที่ชุมชนที่ดำเนินงานนวดไทย 10 พื้นที่ และเครือข่ายที่ทำงานด้านนวดไทย ได้จัดประชุมในชุมชนของตนเอง ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมในทุกพื้นที่ร่วมลงนามใบยินยอมด้วยความสมัครใจ 5) นวดไทย ได้ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม ในสาขาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล ประเภทการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2554 แล้ว

นายอิทธิพล กล่าวทิ้งท้ายว่า การเสนอขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมฯ ของไทย กับยูเนสโก นี้ ถือเป็นการดำเนินงานตามพันธกรณีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ถือเป็นสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และเป็นการพัฒนาการส่งเสริมรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของไทยให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติและผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นการยืนยันบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก โดยประเทศไทยจะถูกจารึกไว้ในรายชื่อประเทศที่ตระหนักและเห็นคุณค่าชนกลุ่มน้อยและชุมชนระดับนานาชาติ และจะไม่ทำอะไรที่มีผลเสียต่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เช่น การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์แบบไม่เหมาะสม ทั้งนี้ การขอขึ้นทะเบียนรายการนวดไทยต่อยูเนสโก จึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ สืบทอด สร้างความหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมนวดไทย อันจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนไทย มีส่วนร่วมในโอกาสที่นวดไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก อาทิ 1)การจัดงานแถลงข่าวการประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ในวันที่ 13 ธ.ค.2562 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร 2)กิจกรรมประชาสัมพันธ์ นวดไทย มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ วันที่ 17 ธ.ค.2562 ณ ทำเนียบรัฐบาล 3)สร้างความตระหนักรับรู้คุณค่าความสำคัญเรื่องนวดไทยให้กับสื่อมวลชน/ประชาชน/เยาวชน โดยประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ โดยจัดทำเป็น 2ภาษา (ภาษาไทย – ภาษาอังกฤษ) 4)สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและสืบสานองค์ความรู้ของชุมชน เรื่อง นวดไทย 5)การประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล ชุมชนองค์กร ที่มีการส่งเสริมการสืบสาน นวดไทย และ 6)จัดงานมหกรรมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม นวดไทย มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ


นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข โดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เสนอกลไกการดำเนินการที่สำคัญตามแผนปฏิรูปประเทศในประเด็นการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ ในคราวการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 4/2562 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2562 ณ ศูนย์การประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ประกอบด้วย 1) การจัดทำมาตรฐานการนวดไทย ได้แก่ การพัฒนาด้านองค์ความรู้ การพัฒนาด้านหลักสูตรการนวดไทย การพัฒนาด้านระบบบริการนวดไทย 2) การประเมินและรับรองมาตรฐานการนวดไทยในประเทศ (Certification Body) 3)การสร้างอัตลักษณ์ “นวดไทย” สู่ระดับโลก ได้แก่ การยกย่องเชิดชูเกียรติ หมอไทยแห่งชาติ สาขานวดไทย พิพิธภัณฑ์การนวดไทยและรูปหล่อฤาษีดัดตนขนาดใหญ่ (Landmark of Bangkok) และ 4) การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาการนวดไทย

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตนในฐานะผู้แทนกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมที่ได้เป็นผู้ดำเนินการเสนอนวดไทย เข้าสู่การพิจารณาต่อองค์การยูเนสโก ในรอบ ปี 2562 จนประสบความสำเร็จก่อให้เกิดประโยชน์ทำให้ “นวดไทย” ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโก นวดไทยนั้นถือว่า เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทยที่มีการสืบสานมาแต่โบราณกาลมีบันทึกจารึกกล่าวถึงตั้งแต่ยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) และในเชิงโครงสร้างก็มีการจัดตั้งกรมหมอนวด จวบจนสมัยปัจจุบันได้มีการแตกหน่อต่อยอดองค์ความรู้แห่งศาสตร์แขนงนี้อย่างหลากหลาย พัฒนาเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพของประเทศไทย ตั้งแต่การนวดพื้นบ้านในชุมชน การนวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพในสถานประกอบการ เพื่อสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงการนวดเพื่อการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลต่าง ๆ

นพ.ปราโมทย์ กล่าวด้วยว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการนำภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยด้านการนวดไทยมาใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการนวดไทย ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนานวดไทย (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2563-2565 ซึ่งผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกำหนดทิศทางขับเคลื่อนการดำเนินงาน ให้สอดคล้อง ตามที่องค์การยูเนสโกกำหนด โดยมีแนวทางสำคัญ คือ การสร้างมาตรฐานนวดไทยทั้งในด้านองค์ความรู้ หลักสูตรรวมถึงระบบบริการนวดไทยให้เป็นที่ยอมรับตั้งแต่ในระดับชุมชนซึ่งเป็นต้นกำเนิดภูมิปัญญา ด้านการนวดไทย สถานพยาบาล สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และในระดับสากลในอนาคต ทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในชาติ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญานวดไทยให้อยู่คู่กับสังคมไทยตราบนานเท่านาน คนไทยและทั่วโลกจะได้จดจำว่าวันที่ 12 ธ.ค.2562 นวดไทย Nuad Thai ได้รับ การประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible Cultural Heritage) จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย ซึ่งคิดว่านอกจากจะเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทยและมวลมนุษยชาติแล้ว การนวดไทยจะสามารถ สร้างชาติไทยให้มั่นคงในเชิงเศรษฐกิจได้ต่อไป