ประชาชนในเมืองซิดนีย์ เมืองใหญ่สุดและมีประชากรอยู่อาศัยมากที่สุด ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย กำลังเผชิญกับการจำกัดการใช้น้ำเข้มงวดที่สุด ในรอบกว่าทศวรรษ ท่ามกลางภาวะไฟป่าไหม้ลามรุนแรง
นับตั้งแต่วันอังคารที่ 10 ธ.ค. เป็นต้นไป การจำกัดการใช้น้ำระดับ 2 จะมีผลบังคับใช้ ใน 3 พื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และทางการอาจจะปรับขึ้นเป็นระดับ 3 ภายในไม่กี่เดือน จากรายงานของสื่อท้องถิ่น
สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย ทำนายว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในเขตรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะพุ่งสูงขึ้นเหนือ 40 องศาเซลเซียส นับจากวันอังคาร ทำให้สถานการณ์ไฟป่า ที่คร่าชีวิตประชาชนแล้ว 6 ศพ นับตั้งแต่เดือน ต.ค. เลวร้ายลงอีก
ขณะนี้เกิดไฟป่าไหม้ลามกว่า 100 จุด ในพื้นที่ 2 รัฐทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย คือนิวเซาท์เวลส์และวิคทอเรีย ไฟป่าหลายจุดไหม้ลามโดยไม่สามารถควบคุมได้ ติดต่อกันหลายสัปดาห์
ภายใต้กฎใหม่ ตามที่ประกาศ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเกรเตอร์ซิดนีย์, บลูเมาน์เท่น และอิลลาวาร์รา จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้น้ำรดพืชผักในสวน ในช่วงเวลาระหว่าง 10.00 น. จนถึง 16.00 น. และการใช้น้ำในเวลาอนุญาต ต้องใช้ถังหิ้ว ห้ามใช้สายยางหรือหัวฉีดสปริงเคิล
และการล้างรถยนต์ต้องล้างจากน้ำใส่ถังหิ้ว หรือใช้บริการล้างรถ ขณะที่สระว่ายน้ำทุกแห่งและทุกขนาด ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเติมน้ำในสระ ยกเว้นเจ้าของสระจะได้รับอนุมัติเป็นพิเศษ
ผู้ฝ่าฝืนกฎ หากเป็นบุคคลจะถูกปรับเป็นเงินครั้งละ 220 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 4,550 บาท ส่วนนิติบุคคลหรือบริษัทจะถูกปรับครั้งละ 550 ดอลลาร์ หรือ 11,385 บาท.