ผู้ประกอบการร้องนายกฯแก้ปัญหาประมง

2019-12-06 19:10:13

ผู้ประกอบการร้องนายกฯแก้ปัญหาประมง

Advertisement

กลุ่มผู้ประกอบการประมงร่วมลงชื่อกว่า 600 ราย ถึงนายกรัฐมนตรีให้เร่งแก้ไขปัญหาการทำประมง

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่องค์การสะพานปลาสุราษฎร์ธานี นายสุรเชนทร์ บุญภัทรถาวร นายกสมาคมประมงอวนลากสุราษฎร์ธานี พร้อมกลุ่มผู้ประกอบการเรืออวนลากรวมตัวกันพร้อมลงชื่อกว่า 600 คนยื่นข้อเรียกร้อง 11 ข้อถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง ผวจ.สุราษฎร์ธานีให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน


นายสุรเชนทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานราชการต่างๆ ได้ออก กฎ ระเบียบ ประกาศ และมาตรการต่าๆ มาบังคับใช้กับชาวประมง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมงตลอดจนห่วงโซ่ธุรกิจๆ จนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องเลิกอาชีพ เพราะประสบกับภาวะขาดทุน มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ขาดแรงงาน ทั้งที่ในปัจจุบันประเทศไทยได้รับการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปไปแล้ว แม้ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามที่จะแก้ไขญหาให้อย่างเต็มที ซึ่งต้องขอขอบคุณมายังผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ปัญหาต่างๆก็ยังไม่คลี่คลาย และก็ยังไม่เกิดผลออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากติดขัดระบบราชการ และการตัดสินใจต่างๆ ของผู้มีอำนาจ รวมทั้งยังมีการออก กฎ ระเบียบ ที่สร้างปัญหาใหม่ๆมาอีกเช่น เรื่องการจะบังคับให้ชาวปรมงชำระค่าน้ำมันผ่านระบฟรีทการ์ด ซึ่งเป็นระบบเงินสด ในขณะที่ภาคเกษตรอื่นๆ ภาครัฐกลับดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความไม่สบายใจต่อชาวประมงเป็นอย่างมาก ดังนั้นสมาคมประมงอวนลากสุราษฎร์ธานี จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานราชการต่างๆ เร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังนี้คือ1. ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดหยุดออกกฎหมาย กฎ ระเบียบประกาศ คำสั่งต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง มาเพิ่มเติมขึ้นอีก(ยกเว้นการออก กฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งที่ผ่อนคลายปัญหาให้กับชาวประมง)2. ขอให้มีการเสนอแก้ไขกฎหมายพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเร่งด่วน ในช่วงที่มีการประชุมสภานิติบัญญัตินี้ 3.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการการซื้อเรือประออกนอกระบบคืนโดยเร็วโดยขอให้รัฐบาลมีการตั้งงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้าน ในปีงบประมาณ 2563 ในการที่จะนำเรือประมงออกนอกระบบ 4.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการช่วยเหลือชาวประมงในโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวประมโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้ 5.ขอให้กรมประมง กรมจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการอนุญาตให้ใช้กฎหมายมาตรา 83 แห่ง พรก.การประมง พ.ศ. 2558 ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมง โดยเร่งด่วน ภายในเดือน ธ.ค.2562


6.ขอให้ยกเลิก แก้ไข กฎ ระเบียบต่างๆ ที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติของกรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน ที่ส่งผลกระทบกับชาวประมงที่เป็นอยู่โดยเร็ว 7.เรือประมงที่มีขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอส ไม่ควรมีนโยบายให้ติด VMS เช่นการชักชวนให้เรือประมงขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ทดลองติด VMS ฟรี 8.ขอให้หยุดการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศโดยทันที ด้วยเหตุผลไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกำหนดประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 92 ซึ่งการนำเข้าสัตว์น้ำจะต้องมีการตรวจสอบว่าสัตว์น้ำเหล่านั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามมาตรา 92 วรรคสองและวรรคสาม สินค้าประมงจากต่างประเทศจึงเข้ามาถล่มตลาดสินค้าสัตว์น้ำของชาวประมงไทยที่ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งรัด ทำให้ต้นทุนสูงกว่า ราคาจึงตกต่ำเพราะมีการนำเข้าสินค้สัตว์น้ำแบบเสรี ไร้การควบคุม มาสต๊อกไว้เต็มห้องเย็นหมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องแก้ไขระเบียบกรมประมงเดิมที่อนุญาตให้บุคคลธรรมดาสมารถนำเข้าสัตว์น้ำได้เสรีมีมาตรการปกป้องสินค้สัตว์น้ำภายในประเทศ 9.ขอให้พิจรณาเพิ่มวันทำการประมงให้กับพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศโดยเร่งด่วนเพราะทำให้เกิดปัญหาการประกอบอาชีพขาดทุนมา 4-5 ปีแล้ว เนื่องจากมีการกำหนดให้ทำการประมงได้ไม่ทั้งปี แต่ต้องมีรายจ่ายค่าจ้างแรงงานตลอดทั้งปื 10.ขอให้คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรทบทวนแนวทางที่จะบังคับไห้บริษัทจำหน่ายน้ำมัน บังคับให้ชาวประมงต้องจ่ายเงินผ่านบัตรฟรีทการ์ด (Feet Cad) ซึ่งจะทำให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงเพิ่มขึ้นทันที และ11.ขอให้มีการทบทวนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวประมงกรณีที่ถูกบังคับใช้จากกฎหมายประมงที่ไม่เป็นธรรมโดยการตั้งคณะกรรมการพิจารณาผู้ได้รับผลกระทบ เช่น กลุ่มเรืออวนรุน หรือเรือที่ถูกดำเนินคดีจากกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ หากภาครัฐไม่ดำเนินการแก็ไขตามข้อชาวประมง ก็ให้รัฐซื้อเรือประมงพร้อมเครื่องยนต์ และเครื่องมือประมงไปให้หมดทั้งประเทศเพราะไม่สามารถทำการประมงได้อีกแล้ว และหลังจากนี้จะเข้าร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้อง เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านทางนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อไป