ส.ป.ก.ชี้ “ปารีณา”ไม่ใช่เกษตรกร เรียกคืนที่ ส.ป.ก.4-01 682ไร่ (คลิป)

2019-12-06 12:30:48

ส.ป.ก.ชี้ “ปารีณา”ไม่ใช่เกษตรกร เรียกคืนที่ ส.ป.ก.4-01 682ไร่ (คลิป)

Advertisement

เลขาธิการ ส.ป.ก.ชี้ “ปารีณา” ไม่มีคุณสมบัติครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จำนวน 682 ไร่ เหตุเป็น ส.ส. เจ้าของบริษัท ไม่มีคุณสมบัติเกษตรกร สั่งคืนที่ดินภายใน 7 วัน พร้อมรื้อถอนเล้าไก่ออกไป เดินหน้าตรวจสอบที่ดินของ “ทวี” อีก 600ไร่ ที่ อ.สวนผึ้ง

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลาขาธิการสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แถลงกรณีการครอบครอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว น.ส.ปารีณา ครอบครองที่ดิน ภบท.5 ใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในเขต พ.ร.ฎ.กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักกฎหมาย และสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่และสอบถามผู้ปกครองท้องที่ เกี่ยวกับการถือครองและทำประโยชน์ในที่ดินโดยลักษณะการทำประโยชน์ ได้แก่ เลี้ยงไก่ โค ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ โรงเรือน สระน้ำจากนั้นวันที่ 15 พ.ย. ส.ป.ก.ราชบุรี มีหนังสือแจ้งเกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตรายแปลง ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง เพื่อขอตรวจสอบการทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งมีเกษตรกรมาให้ข้อมูล 9 ราย จากทั้งหมด 14 ราย โดยเกษตรกรทั้ง 9 รายยังเป็นผู้ถือครองและทำประโยชน์ด้วยตนเอง


นายวิณะโรจน์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ส.ป.ก.ราชบุรี ได้สรุปผลการตรวจสอบที่ดินที่ น.ส.ปารีณา ถือครองเนื้อที่ 682 ไร่ เข้าครอบครองเมื่อประมาณปี 2548-2549 โดยได้รับมาจากบิดา ประกอบด้วย แปลง No.73 เนื้อที่ 417 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการทำโรงเลี้ยงไก่ แปลง No.75 เนื้อที่ประมาณ 190 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว แปลง CL.424 เนื้อที่ประมาณ 48 ไร่ ใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว ปลูกหญ้าเลี้ยงวัว และแปลง No.74 เนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ ใช้วางมูลไก่ ซึ่งที่ดินแปลงข้างเคียง ส.ป.ก. ได้อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์แล้ว รวม 14 ราย 15 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 491 ไร่ ทิศเหนือ และที่ดินแปลงย่อยบริเวณที่ติดถนนสายจอมบึง-ชัฏป่าหวาย ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินที่ น.ส.ปารีณา ถือครอง มีผู้ถือครองจำนวน 16 ราย 20 แปลง เนื้อที่ประมาณ 222 ไร่ ต่อมา วันที่ 4 ธ.ค2562 น.ส.ปารีณามีหนังสือแจ้ง ส.ป.ก. ขอเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส.ป.ก. ประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาแล้ว เห็นว่าจากการที่ น.ส.ปารีณา ขอเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้น เมื่อ ส.ป.ก. ตรวจสอบคุณสมบัติ ปรากฎว่ามีสถานะเป็น ส.ส.และกรรมการบริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด ซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้ จึงไม่ใช่เกษตรกรผู้มีสิทธิจะได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.

เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวต่อว่า ส.ป.ก.จึงมีแนวทางการดำเนินการโดยจะแจ้งให้ น.ส.ปารีณา คืนที่ดินที่ครอบครองและทำประโยชน์ทั้งหมดให้ ส.ป.ก. นำมาดำเนินปฏิรูปที่ดิน ภายใน 7 วัน โดยด้วยการย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่ง ส.ป.ก. จะนำที่ดินไปจัดสรรให้แก่เกษตรกรตามนโยบายจัดที่ทำกินชุมชนของรัฐบาลต่อไป ซึ่งหากครบกำหนดดังกล่าวแล้วไม่ส่งคืนที่ดิน ส.ป.ก.จะใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย ซึ่ง ส.ป.ก. จะนำที่ดินไปจัดให้แก่เกษตรกรตามนโยบายจัดที่ทำกินชุมชนของรัฐบาล ต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและต้องขอโทษต่อสังคม ที่ไม่ได้ชี้แจงต่อสังคม เพราะทุกอย่างอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจอย่างระเอียด ซึ่งอาจจะทำให้ล้าช้าเพราะที่ผ่านมาต้องการให้เกิดความชัดเจนก่อน จึงไม่ออกมาชี้แจง ตอนนี้ก็ถือว่าชัดเจนและจะดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สั่งให้เร่งรัดตรวจสอบการถือครองผิดกฎหมายทั่วประเทศโดยนายทุนบุกรุกทำรีสอร์ต มีทั้งรายใหญ่ ผู้มีอิทธิพล นักการเมือง พบผิดให้ยึดคืนหลวงทั้งหมด นำมาจัดสรรให้ผู้ยากไร้


เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวอีกว่าน ส่วนพื้นที่การครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 ของนายทวี ไกรคุปต์ อีก 600 ไร่ ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ และจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันทั้งหมดเพื่อยึดที่คืนและจัดสรรให้เกษตรกรต่อไป ส่วนที่กรมป่าไม้ดำเนินคดี กับ น.ส.ปารีณา ที่ผ่านมา ส.ป.ก. จะไม่ขอเข้าไปร่วมดำเนินคดี เพราะ เป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ โดยในพื้นที่ของ ส.ป.ก. ที่ น.ส. ปารีณา ครอบครอง จะดำเนินการทางกฎหมายของ ส.ป.ก. อย่างเคร่งครัด คนที่ไม่มีคุณสมบัติ ความเป็นเกษตรกร ยืนยันว่าจะดำเนินการเช่นเดียวกัน และจะไม่เลือกปฎิบัติ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันทั้งหมด

เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า รับมอบที่ดินป่าเสื่อมโทรมจากกรมป่าไม้มา 40 ล้านไร่ และนำที่ดินมาปฏิรูปจัดสรรให้เกษตรกร เฉลี่ยปีละ 63,000 ราย พื้นที่ประมาณ 50,000 ไร่ต่อปี และเมื่อมอบที่ดินให้แล้วก็ต้องตามดูแล ป้องกันไม่ให้ซื้อขายเปลี่ยนมือ ต่อจากนี้ ส.ป.ก.จะเป็นหน่วยคุ้มครองที่ดินเกษตรกร เพราะเป็นที่ดินที่จะหล่อเลี้ยงและถือเป็นความมั่นคงทางด้านแหล่งอาหารของประเทศ

ด้านนายนภดล ตันติเมฆิน ผอ.สำนักกฎหมาย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ดำเนินคดี แต่หากผู้ถือครองที่ดินไม่ให้ความร่วมมือ จึงจะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายในการดำเนินคดีอาญา กรณีป้องปัดขัดขวางไม่ให้ตรวจสอบทำประโยชน์เกษตรกรรม ทั้งนี้ยังสั่งการให้ ส.ป.ก.ตรวจสอบการถือครองที่ดินแปลงอื่นๆ ทั่วประเทศ ที่อาจมีคำสั่งครอบครองไม่ถูกต้องอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ ส.ป.ก.สำรวจพื้นที่ต่างๆ มาแล้วใน จ.ราชบุรี มี 9 แปลงที่มีผืนใหญ่เกิน 500 ไร่


อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ น.ส.ปารีณา ได้แจ้งยินยอมในการดำเนินการปฏิรูปที่ดินแล้ว จึงถือว่าไม่มีการขัดขืน ส่วนเรื่องคุณสมบัตินั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่ง ส.ป.ก.พิจารณาแล้ว ว่าต้องคืนที่ดิน แต่ไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ส.ป.ก. ไม่ระบุว่า พื้นที่ 682 ไร่นั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ 46 ไร่ ที่กรมป่าไม้แจ้งว่า รุกป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า ส่วนพื้นที่ 46 ไร่เป็นสำนวนของกรมป่าไม้ ไม่สามารถก้าวล่วง เนื่องจากจะกระทบกับสำนวนคดี แต่ ส.ป.ก. ย้ำว่า ได้รับพื้นที่ 682 ไร่ จากกรมป่าไม้ในปี 2536 ให้มาจัดสรรเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.