คพ.พบอาคารราชการร้อยละ 60 ระบายน้ำทิ้งเกินค่ามาตรฐาน

2019-12-06 10:45:23

คพ.พบอาคารราชการร้อยละ 60 ระบายน้ำทิ้งเกินค่ามาตรฐาน

Advertisement

คพ.ตรวจอาคารราชการในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล กว่าร้อยละ 60 มีการระบายน้ำทิ้งเกินค่ามาตรฐาน เร่งพัฒนาให้เป็นต้นแบบ

เมื่อวันที่ 6  ธ.ค. นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ในปี 2561-2562 มีการตรวจสอบการระบายน้ำทิ้งจากอาคารราชการในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ภาพรวม พบว่ามีการระบายน้ำทิ้งเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 60 ดังนั้น คพ. ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ ติดตามและตรวจสอบ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้หน่วยงานดังกล่าว ปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานต่อไป

นายประลอง กล่าวว่า ในปี 2563 นี้ คพ. จะผนึกกำลังร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 – 16 ดำเนินการเร่งตรวจสอบการระบายน้ำทิ้งและพัฒนาอาคารราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล และหน่วยงานอิสระในกำกับของรัฐ ให้เป็นต้นแบบที่ดีด้านการจัดการน้ำเสียจากอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานที่สมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 188 หน่วยงาน อยู่ในพื้นที่ กทม. 86 หน่วยงาน และพื้นที่ต่างจังหวัด 102 หน่วยงาน โดยจะลงพื้นที่ตรวจสอบการระบายน้ำทิ้งจากอาคารของหน่วยงานต่างๆ และให้คำแนะนำเชิงเทคนิคเกี่ยวกับแนวทางการจัดการน้ำเสีย และการดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้สามารถบำบัดน้ำเสียให้เป็นไปตามค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และพัฒนาตนเองให้เป็นต้นแบบที่ดีด้านการจัดการน้ำเสีย และเมื่อสิ้นสุดโครงการ จะมีการตรวจประเมินผลการพัฒนาตามเกณฑ์ที่กำหนด และเผยแพร่อาคารราชการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินเพื่อเป็นต้นแบบด้านการจัดการน้ำเสียให้ทุกภาคส่วนรับทราบ

"การดำเนินการดังกล่าว นับเป็นมาตรการสำคัญในการผลักดันให้หน่วยงานราชการตื่นตัว และให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายด้านการจัดการน้ำเสียของหน่วยงาน มีการดูแลรักษาและเดินระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงถ่ายทอดแนวทางปฏิบัติไปยังบุคลากรในองค์กรให้มีส่วนร่วมในการจัดการน้ำเสียของหน่วยงาน ลดการระบายน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ และพัฒนาเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ซึ่งถือเป็นอีกกลไกหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการน้ำเสียที่ต้นทางจากทุกภาคส่วน ทำให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจกันในการจัดการน้ำเสีย และการอนุรักษ์ ฟื้นฟูคุณภาพแหล่งน้ำให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนต่อไป"  นายประลอง กล่าว