"หนุ่มฆ่ายกครัว" สารภาพ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

2019-12-03 15:40:16

"หนุ่มฆ่ายกครัว" สารภาพ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

Advertisement

หนุ่มฆ่าโหดยกครัว 3 ศพ สารภาพทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบและขาดความยั้งคิด

กรณีมีเหตุคนร้ายฆ่ายกครัวพ่อแม่ลูก ที่บ้านเลขที่ 307 หมู่ 3 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อไปตรวจสอบภายในบ้าน พบว่า มีผู้ถูกฆ่าตายหมกศพจนขึ้นอืด 3 คน ประกอบไปด้วยนายอุดม กิมสี อายุ 57 ปี พนักงานเทศบาล ต.บ้านดู่ ฝ่ายจัดเก็บรายของกองคลังของเทศบาล ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นางณัชชา กิมสี อายุ 51 ปีภรรยา และ น.ส.สวรส กิมสี อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.เชียงราย ได้สืบสวนสอบสวนจนได้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนวราธร (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 2 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน มีอาชีพรับแลกเปลี่ยนเงินตราทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.สวรส และเป็นผู้ลงมือฆ่ายกครัวในครั้งนี้ โดยมีมูลเหตุมาจากความหึงหวงในตัวของ น.ส.สวรส หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ได้ประสานให้ทาง กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ทำการออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมคนใกล้ชิด เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนเพื่อเค้นความจริงหามูลเหตุการก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ พร้อมกับนำตัวเดินทางออกมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อนำตัวมายังพื้นที่ สภ.บ้านดู่ เพื่อเตรียมตัวนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ




ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก จ.เชียงรายว่า ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาประชุมและสอบปากคำ นายนวราธร ผู้ต้องหา โดยมี พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงรายชุดสอบสวน สืบสวน สภ.บ้านดู่ ร่วมให้ข้อมูล โดยทั้งหมดใช้เวลาประชุมนานกว่า 30 นาที ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ห้องประชุมให้ พล.ต.อ.สุชาติ สอบปากคำนานประมาณ 20นาที โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวร่วมรับฟัง

หลังจากนั้น พล.ต.อ.สุชาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่าจากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การสารภาพว่าได้ยิงทั้งสามเสียชีวิตจริง โดยมีสาเหตุมาจากความหึงหวง โดยก่อนเกิดเหตุได้พา น.ส.สวรส พร้อมกับเพื่อนๆไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งระหว่างเดินกลับบ้านได้มีปากเสียงทะเลาะกับ น.ส.สวรส เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้มีปากเสียงกันอีกและมีการท้าทายในเรื่องอดีตแฟนเก่าของทั้งสองฝ่าย โดยผู้ต้องหาอ้างอีกว่าได้เก็บปืนไว้ในกล่องและถอดลูกกระสุนออกจากแม็กกาซีน แต่เมื่อเกิดการท้าทายโดย จึงทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบไปหยิบปืนมาบรรจุลูกกระสุนและยิงใส่ร่าง น.ส.สวรส จนเสียชีวิต และใช้อาวุธปืนยิงแม่และพ่อของ น.ส.สวรส จนเสียชีวิตตามกันไป โดยให้การว่าขณะที่ก่อเหตุเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบและไม่ทันยั้งคิด สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้หาซื้อมาจากร้านแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย โดยมีทะเบียนครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ค่อยได้นำออกมาใช้หรือพกพา หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปโดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ ทะเบียน กอ 8068 เชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากคำให้การพบว่าผู้ต้องหาและผู้ตาย ได้ปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ตามที่ได้ให้การ ทั้งสถานบันเทิง และเส้นทางหลบหนี พร้อมพาหนะ



เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ต่อนายนวราธร เพียงคนเดียวและข้อหาเดียวก่อน หลังจากนี้หากสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับมีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะพิจารณาว่า จะตั้งข้อหาเพิ่มหรือมีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เพราะช่วงที่ผู้ต้องหาหลบหนีได้มีการเดินทางไปร่วมกันมากกว่า 1คน

ส่วนสถานการณ์ที่บ้านที่เกิดเหตุ ได้มีชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวว่าคนร้ายถูกจับกุมตัวและคาดว่าจะนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ต่างพากันมายืนเฝ้ารอดูหน้าผู้ต้องหาจำนวนมาก และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนร้ายมีความโหดเหี้ยม จึงอยากให้ได้รับโทษประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกันและทางญาติๆ ของคนตายไม่ต้องการให้คนร้ายมาขอขมาศพแต่อย่างใด ส่วนกำหนดการจัดงานศพนั้น หลังจากรับศพมาจากโรงพยาบาลแล้วจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดงหนองเป็ด อ.เมืองเชียงราย ส่วนกำหนดการฌาปนกิจศพจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีกำหนดการนำตัวผู้ต้องหามาทำแผน แต่ชาวบ้านก็ยังคงนั่งจับกลุ่มรอกันอยู่เช่นเดิม