ตร.ทางหลวงแจงเหตุปะทะคารมคนขับรถกระบะขนพริกที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ไม่ได้เจาะล้อทำให้ยางระเบิดแต่เกิดจากอุบัติเหตุ เผย ตร.ที่บาดเจ็บปลอดภัยแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากพบปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะดำเนินการตามวินัยทันที ส่วนคู่กรณีมีการปรับความเข้าใจกันแล้วพอใจการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ไม่ติดใจเอาความ แถมเปลี่ยนยางใหม่ให้ 2 เส้น 8,700 บาท
จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงนายหนึ่ง ขณะตรวจรถกระบะตอนเดียวสีขาวบรรทุกของเต็มรถ พร้อมยึดกุญแจรถ และเกิดการปะทะคารมกับคนขับ ซึ่งมีการชี้หน้าตำรวจด้วย ทั้งนี้ขณะที่คนขับเดินมาสงบสติอารมณ์ที่ป้อมยาม ตำรวจที่ปะทะคารมกับคนขับยังวนเวียนอยู่ที่รถ จากนั้นมีเสียงดังสนั่นเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าววิ่งออกมาคล้ายได้รับบาดเจ็บ บอกว่าไปโรงพยาบาลเร็ว ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่ฝ่ายคนขับรถไม่เชื่อว่าจะบาดเจ็บจริง ระบุว่ามีการเจาะยาง ทำให้ยางรถระเบิดแล้วแกล้งบาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งสินค้าในรถมีมูลค่าประมาณกว่า 3 แสนบาททางตำรวจต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้เมื่อไปดูที่ล้อรถพบว่ายางหลังซ้าย มีรอยฉีกเป็นเเนวยาวที่บริเวณเเก้มยาง จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่อาจจะมีการกรีดยางรถ เพราะเสื้อกั๊กของตำรวจมีคัตเตอร์เหน็บอยู่
เมื่อวันที่ 3 ธ.คง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับการชี้แจงจาก ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง รองสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งลงทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ ว่า การเรียกตรวจค้นรถกระบะคันนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงเพื่อตรวจสอบรถเป้าหมายที่อาจจะซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติดตามที่ได้รับรายงานและประสานข้อมูลจาก ปปส. ซึ่งจะใช้วิธีซุกซ่อนมากับรถขนสินค้า แต่การตรวจค้นอาจเสียเวลา ทำให้คนขับไม่พอใจและไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และเกิดการพูดตอบโต้กันขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางสถานีตำรวจทางหลวงทางหลวง3 ได้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งตำรวจคู่กรณีและตำรวจทางหลวงทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่
ร.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า โดยเฉพาะเรื่องยางระเบิดซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าถูกตำรวจเจาะหรือไม่ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าตำรวจไม่ได้เจาะเป็นอุบัติเหตุยางระเบิดขณะที่ตำรวจทางหลวงนายนี้ก้มดูใต้ท้องรถพอดี ส่วนอาการของตำรวจทางหลวงนายนี้มีอาการแน่นหน้าอก บาดเจ็บที่แขนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ร.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้อย่างดีที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน10 นาทีก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนยางให้และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกัน พริกก็ไม่ได้เสียหาย หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนยางใหม่ให้ 2 เส้นเป็นเงิน 8,700 บาท และพูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายและเหตุการณ์จบลงด้วยดี ทางคนขับรถกระบะขนพริกเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และพอใจการช่วยเหลือของตำรวจทางหลวงที่เป็นไปด้วยความรวดเร็วจนสามารถส่งพริกได้ทันเวลาไม่เสียหาย แต่ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงในขณะเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิปนั้นหากพบว่าผลการสอบสวนเรื่องมีความผิดก็จะดำเนินการทางวินัยโดยไม่ละเว้น
อย่างไรก็ตามก็ตามในส่วนของคู่กรณีที่เป็นคนขับรถกระบะขนพริกผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอพูดคุยข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ก็บอกแต่เพียงว่าเรื่องนี้จบลงด้วยดีแล้วทางผู้ใหญ่ได้มีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเรียกร้องหรือดำเนินการทางคดีใด ๆ