“จิรายุ” นัดถก กมธ.กิจการศาลฯ 14 พ.ย.นี้ พิจารณาเรื่องความปลอดภัยภายในศาล พร้อมตรวจสอบงบของตำรวจศาล หลังเกิดเหตุยิงกันภายในศาลถี่
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการก่อเหตุการณ์ยิงกันภายในบริเวณพื้นที่ศาลหลายครั้ง ตั้งแต่เหตุผู้พิพากษายิงตัวเอง ที่จ.ยะลา และเหตุคู่กรณียิงกันหน้าบัลลังก์ศาล จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เรื่องความปลอดภัยภายในศาลถือว้าสำคัญ ความปลอดภัยสำหรับผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่และผ่านเข้าออกภายในศาล โดยตนจะนัดประชุม กมธ.กิจการศาลฯ ในวันที่ 14 พ.ย.เวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุม 411 เพื่อพิจารณาเรื่องความปลอดภัยภายในศาลและจะตรวจสอบเรื่องงบประมาณปี 2563 เรื่องงบของตำรวจศาล ที่ชุดแรกจะเริ่มปฏิบัติงานประมาณ 300 คนที่เราจะต้องติดตามเรื่องของการดูแลความปลอดภัยตามหน้าที่ของคณะกมธ.จากนั้นจะสุ่มตรวจดูเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยของศาลที่มีอยู่ในทุกจังหวัด ว่าปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน เพราะการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ศาลต้องดูแลอย่างเข้มงวด
นายจิรายุ กล่าวว่า กรณีศาล จ.จันทบุรี ถือว่าเป็นความหละหลวมในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยมากที่สุด ยกตัวอย่าง พื้นที่บริเวณท่าอากาศยาน โซน6ของสนามบิน หากมีการพกอาวุธเข้าไปได้ถือว่าอันตรายมากเพราะเท่ากับเป็นการปล้น เพราะเขตศาลต้องมีความเข้มงวด ตั้งแต่บริเวณด้านล่างของอาคารโดยเฉพาะบัลลังก์ศาลต้องปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องมีเครื่องตรวจ หากอุปกรณ์ไม่พร้อมก็ควรที่จะมีการค้นตัวบุคคลที่จะผ่านเข้าออก เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะเข้าออกภายในได้ รับความปลอดภัย อย่างไรก็ตามเหตุที่เกิดขึ้นภายในศาลจังหวัดจันทบุรีไม่น่าจะเป็นผลมาจากการกดดันจากกระบวนการยุติธรรม เพราะเรื่องคดีจะถูกหรือผิดก็ไปชี้กันที่ศาล ใครจะพอใจหรือไม่พอใจคำตัดสินก็ไปว่ากันตามกระบวนการ แต่การรักษาความปลอดภัยบุคคลถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นภาพลักษณ์ของศาล