“ทวี ไกรคุปต์” น้ำตาคลอขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว “ปารีณา” ถูกดิสเครดิต ยันไม่ได้บุกรุกที่ ส.ป.ก. ยันถือครองที่ดินแปลงดังกล่าวทำประโยชน์เป็นเวลานานมาก
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 พ.ย. นายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางมาที่รัฐสภาเพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว จากกรณีที่บุตรสาวคือ น.ส.ปารีณา ถูกร้องเรียนบุกรุกที่ดิน ว่า ความจริงลูกสาวอยากให้อยู่เฉย ๆ แต่เห็นว่าข่าวดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ลูกสาวและวงศ์ตระกูล ในฐานะที่เป็นพ่อและรู้เรื่องนี้ดี จึงขอความเป็นธรรม ขอเรียนว่า น.ส.ปรีณาไม่ได้บุกรุกตามที่ปรากฏเป็นข่าว เขาถือครองที่ดินแปลงดังกล่าวและทำประโยชน์เป็นเวลานานมาก
“สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้เพราะเอ๋เล่นแรง พูดถึง 2 อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดี ติดคุก เสวยสุขต่างประเทศ ลูกน้องติดคุกหัวโต เอ๋เขากล้าพูด จึงสะท้อนว่าที่โดนร้องเรียนเป็นเกมการเมือง ทำให้เอ๋เสียหาย เป็นการดิสเครดิตกัน จึงขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวด้วย และ คนที่ร้องก็รู้กันอยู่ว่าเป็นแกนนำของพรรคการเมืองใด เขาไม่ได้บุกรุก เขาเป็นเกษตรกร และไม่ใช่เกษตรกรเถื่อน” นายทวี กล่าว
นายทวี กล่าวอีกว่า เขาได้มาจากการซื้อต่อเกษตรกรที่ทำประโยชน์อยู่แล้ว เป็นที่ดินปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกสับปะรด จึงไม่ใช่ผู้บุกรุก แต่ซื้อตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่มีการอ้าง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเขาไม่ได้นำกฎหมายที่ดินดังกล่าวมาประกอบ จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นในขณะนี้ และที่บอกว่า น.ส.ปารีณา ไม่ใช่เกษตรกร และไม่มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรถือว่าทำให้เสียหาย เพราะความจริงเขามีฟาร์มไก่ ฟาร์มวัว ทำมานานแล้ว ถือว่าเป็นปศุสัตว์ ก็คือเกษตรกร ไม่ใช่เกษตรกรเถื่อน ดังนั้นจึงไม่เป็นธรรมที่กล่าวหากันแบบนี้
นายทวี กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าที่ดินครอบครองมานาน ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้บุกรุก แต่ตอนออกประกาศเป็นที่ดินส.ป.ก.เมื่อปี 2537 พื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่เขต ส.ป.ก.เพราะเขาเห็นว่ามีการครอบครองและทำประโยชน์อยู่แล้ว จึงไม่ประกาศให้เป็นส.ป.ก. ต่อมาปี 2554 ซึ่งกรมป่าไม้ยกที่ดินบริเวณดังกล่าวให้เป็น ส.ป.ก. และทาง ส.ป.ก.ก็ประกาศเป็นเขตปฏิรูปในปีเดียวกัน แต่เราได้ทักท้วงไปแล้ว เพราะในพื้นที่ดังกล่าวได้ทำประโยชน์ทางปศุสัตว์ก่อนปี 2554 อยู่แล้ว จึงถือว่าเราครอบครองตามสิทธิ์ เราไม่ได้หัวหมอ เพราะทำปศุสัตว์ตั้งนานแล้วไม่ใช่สร้างรีสอร์ทเหมือนวังน้ำเขียวที่เป็นการขัดวัตถุประสงค์ในการถือครองที่ดิน หากเห็นว่าน.ส.ปารีณาทำผิด ทำไมไม่แจ้งจับตั้งแต่ตอนนั้น แต่กลับเพิ่งมาเป็นประเด็นตอนนี้ ถือเป็นเกมการเมืองเล่นงาน น.ส.ปารีณา ซึ่งผู้ที่ร้องเรียนก็รู้กันอยู่ว่าเป็นแกนนำพรรคการเมืองใด ไม่ใช่ชาวบ้านเป็นผู้ร้อง เพราะเขารู้มานานแล้วว่า น.ส.ปารีณาเป็นเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการพูดคุยนายทวี ได้พูดเสียงสั่น น้ำตาคลอ โดยระบุว่า “ลูกสาวโดนดิสเครดิตการเมือง”