ระทึกยิงกันในศาลจังหวัดจันทบุรีดับ 2 เจ็บ 3

2019-11-12 10:56:00

 ระทึกยิงกันในศาลจังหวัดจันทบุรีดับ 2 เจ็บ 3

Advertisement

ระทึกเกิดเหตุยิงกันในห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดจันทบุรี บาดเจ็บ 5 ราย เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.เสียชีวิต 2 ราย

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการใช้อาวุธปืนยิงกันภายในบริเวณห้องพิจารณาของศาลในพื้นที่ อ.เมือง จ.จันทบุรี ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองจันทบุรี ว่า เมื่อเวลา 09.15 น. ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณีได้รับบาดเจ็บในห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดจันทบุรี ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงได้ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ใช้วุธปืน พกสั้นออโตเมติก กล๊อก 22 ขนาด .40 ก่อเหตุ ยิงคู่กรณีและเจ้าหน้าที่ศาล ทนายความ จำนวน 4 ราย ในขณะที่อยู่ระหว่างรอ การพิจารณาคดีเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องมรดกที่ดิน ภายในบริเวณบัลลังก์ห้องพิจารณาคดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลซึ่งปฎิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่หน้าห้องพิจารณาคดีจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำตัวยิงผู้ก่อเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยในเบื้องขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย รวมผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุจำนวน 1 รายไว้ได้แล้ว พร้อมทำการสืบสวนสอบสวน เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา และจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงถึงการกระทำความผิดของผู้ก่อเหตุเป็นสำคัญ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ลงไปกำชับ กวดขัน การปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำการของศาลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ได้รับการประสานขอกำลังไปปฎิบัติหน้าที่เพิ่มเติมจากศาล โดยต้องบูรณาการกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของศาลและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย ใช้หลักยุทธวิธี ระดับการใช้กำลัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งให้มีแผนเผชิญเหตุและแนวทางการประสานการปฎิบัติ เพื่อเข้าระงับเหตุและแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์ 

ทั้งนี้มีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตที่ รพ. 2 ราย  ส่วนรายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป 

ขอบคุณภาพ กลุ่ม 61 ปภ.