กว่าจะมีวันนี้! เปิดเรื่องราวก่อนจะดัง "ดีเจพุฒ" เป็นทั้งพนักงานร้านสุกี้-ฉีกตั๋วหนัง

2019-11-12 20:00:47

กว่าจะมีวันนี้! เปิดเรื่องราวก่อนจะดัง "ดีเจพุฒ" เป็นทั้งพนักงานร้านสุกี้-ฉีกตั๋วหนัง

Advertisement

บางทีคนเราก็ไม่ได้คาดหวังว่า สักวันชีวิตจะมีชื่อเสียงมีงานที่ดีทำ เพราะจากชีวิตที่ได้เงินเดือนแบบใช้เดือนชนเดือน แต่วันหนึ่งได้รับโอกาสที่ทำให้ชีวิตพลิกผัน อย่างเช่นดาราหนุ่ม "พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน" หรือ "ดีเจพุฒ" ที่ไขว่คว้าโอกาสจนมีทุกวันนี้ จากพนักงานร้านสุกี้-ฉีกตั๋วหนัง กว่าจะก้าวมาสู่ชีวิตการเป็นพระเอกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเรื่องราวในรายการแฉ กับ 3พิธีกร มดดำ, ดีเจเชาเชา และ น็อต วรฤทธิ์  โดย "พุฒ" เผยว่า







มดดำ : ตอนจัดรายการเป็นดีเจ ชั้นเคยบอกว่า แกจะเป็นซูเปอร์สตาร์แบบคนอื่น

เชาเชา : แล้วตอนนั้นเชื่อมั้ย?



พุฒ : ตอนนี้ความรู้สึก พี่มด เอาอะไรมาพูด หรือ พี่มดพยายามอยากให้เราไปหาให้ห้องจัดรายการ

มดดำ : ไม่! คือ มันมีทุกอย่าง ชั้นมั่นใจ ตอนนั้นพูดว่า แกดู ณเดชน์ หมาก มาริโอ้ ไว้นะ วันหนึ่งแกจะเป็นแบบนั้น

เชาเชา : เขาพูดแบบนี้จริงเหรอ?



พุฒ : ใช่ พี่มดเขาพูดแบบนี้จริง ผมก็ว่าพี่มดบ้าแล้ว

เชาเชา : ตอนนั้นเราก็งานกระท่อนกระแท่นเหมือนกัน จะเป็นลูกรักก็ไม่เป็นสักที ใช่มั้ย?

พุฒ : เดือนชนเดือน 

น็อต : ตอนนั้นเราก็เป็นดีเจแล้วใช่มั้ย?



พุฒ :  เป็นดีเจ เป็นพิธีกรโอไอซีแล้วตอนนั้น ชีวิตในตอนนั้นผมก็ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดของผมแล้วนะ นั่นคือ ความฝันของผมแล้วนะ ได้เป็นพิธีกรรายการทีวี ได้เป็นดีเจ ดีเจ คือ ความฝันสูงสุด พออยู่ตรงนั้นเราก็คิดว่าต้องอยู่ตรงนั้นให้ดีที่สุด ต้องรักษาจุดนั้นไว้ให้ได้





มดดำ : เริ่มแรก พุฒ มาจากครอบครัวชาวสวน ทำสวนทำอะไร?


พุฒ : ตอนนั้นอยู่ที่ราชบุรี ที่อำเภอดำเนินสะดวกครับ ก็ทำสวนมะม่วง สวนองุ่น สวนละมุด สวนชมพู่ แล้วก็ปลูกพืชล้มลุก มีหลายอย่างมาก ชีวิตเราก็จะโตมากับการต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำสวนด้วย แล้วก็เรียนไปด้วย

น็อต : ความใฝ่ฝันอยากเป็นดีเจ?
พุฒ : ตอนนั้นยังไม่ฝันเลยพี่ ตอนนั้นเป็นเด็กน้อยอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีความฝันอะไรเลยนะ

มดดำ : มาประกวด
น็อต : ประกวดอะไร ?
พุฒ : ประกวดวีเจของ GMM TV รายการโอไอซี ตอนนั้นเขาหาวีเจหน้าใหม่ ก็ลองเข้าเทสต์ดู ก็ได้ผ่านเข้ารอบมาเก็บตัว ไปเวิร์กช็อปแล้วก็ได้มาเป็น 8คนสุดท้ายในรายการโอไอซีครับ




มดดำ :  อยู่วงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว
พุฒ : ก็เป็น 10 ปีแล้ว

มดดำ : แต่ก็เพิ่งจะมาเริ่มดัง 2-3 ปี แสดงว่าอีกประมาณ 7ปี ที่ผ่านมาเป็นดาราแล้ว เป็นพิธีกร ชีวิตเดือนชนเดือน
พุฒ : ใช่ครับ เดือนชนเดือน

มดดำ : คุณเป็นคนๆ หนึ่งที่แม่ปลูกฝัง แค่บอกให้เรียนให้จบ แล้วกลับมาทำสวน
พุฒ : ใช่ครับ การทำสวนมันลำบากมากครับ ผมเข้าใจการเป็นเกษตรกร มันเหนื่อยจริงๆ แล้วเงินที่ได้มามันไม่คุ้มค่า มันขาดทุนด้วย สมมุติเราลงทุนปลูกผลไม้ชนิดหนึ่ง 7-8 เดือนมันถึงจะเก็บผลผลิตได้ ระหว่างนั้นเราต้องดูแลรดน้ำ ถึงตอนที่เก็บเกี่ยวได้ ราคาตลาดตก พ่อค้าคนกลางรับไปในราคา 3 บาท ไปขายตลาด 10 บาท เราก็ไม่เหลืออะไรครับชาวสวน

เชาเชา : ตอนนั้นคิดมั้ยว่าจะกลับมาเหมือนที่แม่ขอไว้มั้ย?
พุฒ : ไม่คิดเลย คิดว่าชาตินี้ยังไง ก็ต้องหนีไปจากสวนให้ได้ มันเหนื่อยจริงๆ หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน มันเหนื่อยจริงๆนะ นั่นคือชีวิตที่เราทำมาตั้งแต่เด็ก



มดดำ : พ่อแม่เป็นชาวสวน ชาวไร่ ตัวเองต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ไม่อยากรบกวนเงินพ่อแม่ เริ่มต้นด้วยการ สมัครพนักงานร้าน ตอนนั้นร้านแรกที่สมัครคืออะไร?
พุฒ :  ร้านสุกี้ครับ  คือ ตอนนั้นก็ลองสมัครพาร์ทไทม์ เดินไปแบบโง่ๆ เลย พี่ครับผมมาสมัครงานครับ แบบนี้เลยครับ คำแรกที่เขาว่ามา คือ ชั่วโมงละ 25 บาท  ถ้าทำจานแตก ทำแก้วแตกก็หักตามราคา เราก็กลัวนะ ถ้าทำแตกขึ้นมา เราก็กลัวช็อต พาร์ทไทม์วันหนึ่งก็ไม่เกิน 8 ชั่วโมง เราก็ขอถอยมาก่อนดีกว่าแล้วก็ไปสมัครที่โรงหนัง ไปฉีกตั๋วหนังดีกว่า ได้ดูหนังฟรีด้วย ไม่ต้องทำอะไรแตกด้วย แต่พอไปสมัครจริงผู้จัดการ เขาก็อยากให้เราไปขายตั๋ว

น็อต : หน้าตาดี
เชาเชา : หน่วยก้านดี
พุฒ :  ใช่ จะได้เอาไปรับแขกได้ ขายตั๋ว แต่เขาบอกว่า ถ้าขายตั๋วแล้ว ขายผิด ก็หักเงินที่เรา อย่างถ้าผิดสัก 2ที่นั่ง คือ เข้าเนื้อเลยนะ ผมก็เลยไม่เอาดีกว่าขอไปฉีกตั๋วได้มั้ย ก็ได้ชั่วโมงละ 25บาทครับ








ขอบคุณข้อมูลรายการ แฉ
ภาพ push_dj