เร่งรัดคดีโจ๋ลุยห้องฉุกเฉิน นำผู้ต้องหาฝากขังศาล

2019-11-11 17:50:00

เร่งรัดคดีโจ๋ลุยห้องฉุกเฉิน  นำผู้ต้องหาฝากขังศาล

Advertisement

รอง ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่เร่งรัดคดีโจ๋ตะลุมบอนห้องฉุกเฉิน รพ.อ่างทอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลพร้อมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องสอบสวนเพิ่มเติม

วันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทองนำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและตะลุมบอนกันภายในห้องฉุกเฉินและด้านหน้าห้องฉุกเฉิน รพ.อ่างทอง เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาตัวผู้ที่ร่วมก่อเหตุเพื่อที่จะเตรียมขออนุมัติศาลขอหมายเรียกและขอหมายจับมาดำเนินคดี โดยพบว่ามีผู้ที่อยู่ในข่ายที่จะต้องถูกดำเนินคดีมีทั้งหมดกว่า 25 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้รัดกุม ส่วนผู้ต้องหาสามคนแรกที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายในห้องฉุกเฉินทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปขออนุมัติศาลฝากขังแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

ขณะที่นายภาคีนัย หรือ เบียร์ อายุ 27 ปี 1 ในผู้ที่อยู่ในคลิปกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าสถานบันเทิงซึ่งร่วมในการรุมทำร้ายนายสุรเชษฐ์และถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบสวนเปิดเผยว่า ยอมรับว่าตนเองร่วมก่อเหตุดังกล่าวจริงเนื่องจากเห็นว่านายนนทวัฒน์เพื่อนของตนถูกทำร้ายด้วยความโกรธแค้นจึงเข้าไปรุมทำร้ายนายสุรเชษฐ์ แต่ไม่ได้มีส่วนในการชุลมุนที่หน้าห้องฉุกเฉินและในห้องฉุกเฉินแต่อย่างใด




ด้านนางปวีณา อายุ 37 ปี น้าสาวของนายต้น 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวเปิดเผยว่ารู้ข่าวก็ตกใจ โดยหลังเกิดเหตุทางพ่อของต้นก็พยายามหาเงินเพื่อประกันตัวลูกชาย ปกติต้นเป็นคนใจร้อนแต่ไม่คิดว่าจะมีเหตุรุนแรงถึงขนาดนี้

ด้าน พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1.เดินทางมายัง สภ.เมืองอ่างทองพร้อมเรียกชุดสืบสวนและสอบสวนของ สภ.เมืองอ่างทองและชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมประชุมวางแนวทางในการติดตามคดี โดยเน้นย้ำให้ดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ที่อยู่ในข่ายประมาณ 20 กว่าคน แต่ขอเวลาในการทำงานเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปรับการทำงานเนื่องจากกำลังที่ใช้ในการควบคุมไม่เพียงพอ ซึ่งได้เน้นย้ำไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนทางด้านคดีตอนนี้แบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ในส่วนของการก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในร้าน ทะเลาะวิวาทภายนอกร้าน ทะเลาะวิวาทที่หน้าห้องฉุกเฉิน และในห้องฉุกเฉินซึ่งต่างกรรมต่างวาระกัน จึงต้องเน้นในการทำคดีให้รัดกุม รวมถึงหากพบว่าการควบคุมสถานการณ์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องก็จะต้องดำเนินการต่อไป



โดยหลังจากประชุมเร่งรัดคดีเสร็จสิ้นแล้ว พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1เดินทางไปที่ห้องฉุกเฉินของ รพ.อ่างทอง เพื่อเข้าเยี่ยมและขอโทษเจ้าหน้าที่ของ รพ.ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมทั้งตรวจดูจุดที่เกิดเหตุและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ รพ.อ่างทองก่อนเดินทางกลับ