อิหร่านขู่เลิกข้อตกลงนิวเคลียร์หากสหรัฐคว่ำบาตร

ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ผู้นำอิหร่านกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภา ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ เตือนอย่างแข็งกร้าวเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านอาจยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 กับชาติมหาอำนาจโลก “ภายในไม่กี่ชั่วโมง” หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน พร้อมกับตั้งเงื่อนไขมากกว่าก่อนเริ่มต้นการเจรจา ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรจริง ก็จะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า สหรัฐฯ เป็นผู้เจรจาที่ไม่น่าไว้วางใจ

โรฮานี กล่าวว่า โลกเฝ้าจับตารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างใกล้ชิด อเมริกาไม่สนใจข้อตกลงระหว่างประเทศ ล้มเลิกข้อตกลงลดโลกร้อน กรุงปารีส และข้อตกลงการค้า สหรัฐฯ จึงไม่ใช่หุ้นส่วนที่ดี หรือคู่เจรจาที่น่าเชื่อถือ

อิหร่านแถลงว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่สหรัฐฯ เล่นงานอิหร่านนั้น ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่ผ่านความเห็นชอบในปี 2558 กับ 6 ชาติมหาอำนาจ คือสหรัฐฯ, รัสเซีย, จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งอิหร่านก็ตกลงยุติกิจกรรมนิวเคลียร์ของตน เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจ

สหรัฐฯ คว่ำบาตรฝ่ายเดียวหลังอิหร่านทดลองขีปนาวุธ ซึ่งละเมิดมติสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ซึ่งสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ และเรียกร้องให้อิหร่านยุติกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งรวมทั้งการทดลองใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้วย แต่อิหร่านปฏิเสธว่า การทดลองขีปนาวุธของตน ละเมิดมติยูเอ็น โดยบอกว่า ขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้กับอาวุธนิวเคลียร์

ทรัมป์ลงนามร่างกฎหมาย คว่ำบาตรอิหร่าน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐฯ แล้วในเดือนนี้ ซึ่งหลังการลงนาม นายรอน พอล อดีตสมาชิกรัฐสภาที่มีแนวคิดเสรีนิยมคนสำคัญ กล่าวหาทรัมป์ว่า ทรยศคำมั่นสัญญาของเขาที่มีต่อชาวอเมริกัน ด้วยการแสวงหาความขัดแย้งครั้งใหม่กับทั้งอิหร่าน หรือเกาหลีเหนือ พร้อมเตือนทรัมป์ด้วยว่า ระวังสงครามจะทำให้วาระการบริหารประเทศของเขาจบสิ้นลง