กัมพูชา ปล่อยตัว “เขม โสกา” แกนนำฝ่ายค้านจากกักบริเวณ

2019-11-10 17:30:43

กัมพูชา ปล่อยตัว “เขม โสกา” แกนนำฝ่ายค้านจากกักบริเวณ

Advertisement


สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลกัมพูชา ปล่อยตัวนายเขม โสกา หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือซีเอ็นอาร์พี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ถูกยุบไปแล้ว พ้นจากการกักบริเวณภายในบ้านเมื่อวันอาทิตย์ กว่า 2 ปีหลังจากเขาถูกจับกุมตัว และตั้งข้อกล่าวหาเป็นกบฏ แต่ข้อกล่าวหายังคงอยู่ และเขาถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและห้ามเดินทางออกนอกประเทศด้วย แรงกดดันกำลังถาโถมเข้าใส่นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผู้นำเผด็จการกัมพูชา ที่อยู่ในอำนาจบริหารประเทศมานานกว่า 30 ปี ให้ผ่อนคลายการกวาดล้างฝ่ายค้าน ขณะที่ บรรดาผู้นำสหภาพยุโรป หรืออียู ก็กำลังพิจารณาว่า จะเดินหน้าตัดสิทธิพิเศษทางการค้ากัมพูชาต่อหรือไม่

เขม โสกา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ในฐานะที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งถูกจำคุกมานาน 2 ปี ผมยังคงเรียกร้องว่า ให้ยกเลิกข้อกหาต่าง ๆ ที่มีต่อตัวผม ผมหวังว่าการตัดสินใจวันนี้จะเป็นก้าวแรก แต่ผมและชาวกัมพูชาอีกจำนวนมากที่สูญเสียอิสรภาพทางการเมือง ยังคงต้องการการแก้ปัญหาอย่างแท้จริงและยุติธรรม”



เขม โสกา วัย 66 ปี ถูกจับกุมตัวในปี 2560 และพรรคซีเอ็นอาร์พี ก็ถูกยุบในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งพรรคของฮุน เซน กวาดที่นั่งทั้งหมด แต่ก็ถูกประณาม ว่าเป็นเรื่องตลก จากชาติตะวันตก

เขม โสกา ถูกกล่าวหาว่าวางแผนร่วมกับต่างชาติเพื่อโค่นอำนาจฮุน เซน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่เขาปฏิเสธว่า ไร้สาระ ไม่มีมูลความจริง



ศาลกรุงพนมเปญ ระบุในแถลงการณ์ว่า เขม โสกา อาจได้ออกจากการกักบริเวณในบ้านพัก แต่เขาก็ไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง หรือออกนอกประเทศได้ “นี่เป็นเพราะ เขาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่” ชิน มาลิน โฆษกกระทรวงยุติธรรมกัมพูชา กล่าว

การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม มีขึ้นหนึ่งวันหลังนายสม รังสี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคซีเอ็นอาร์พี วัย 70 ปี เดินทางจากลี้ภัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เข้ามายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางกลับประเทศเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ฮุน เซน

ฮุน เซน วัย 67 ปี อดีตผู้บัญชาการเขมรแดง บริหารประเทศที่มีประชากร 16 ล้านคนด้วยอำนาจเผด็จการ มานานกว่า 34 ปีแล้ว และยังมีความสามารถในการเล่นงานฝ่ายค้าน ด้วยการแยกแต่ละคนออกจากกัน

ด้านสถานทูตสหรัฐ ระบุว่า การผ่อนคลายความเข้มงวด ถือเป็นความก้าวหน้าในขอบเขตจำกัด และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชา ยกเลิกข้อกล่าวหาที่คนส่วนใหญ่มองว่าเกิดจากแรงกระตุ้นทางการเมือง