รอง ผบ.ตร.ชี้ชัดกระทงเด็ก 15 ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ (คลิป)

2019-11-08 15:45:38

รอง ผบ.ตร.ชี้ชัดกระทงเด็ก 15 ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ (คลิป)

Advertisement


รอง ผบ.ตร. ระบุทางบริษัทญี่ปุ่นดูแล้ว กระทงริลัคคุมะไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

จากกรณีที่มีเยาวชนหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่ง ถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ดำเนินการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากได้ประดิษฐ์กระทงขาย โดยติดรูปตัวการ์ตูนดัง แต่หลังจากที่ไปส่งให้ตามที่นัดเอาไว้ กลับโดนตัวแทนลิขสิทธิ์พร้อมกับตำรวจจับกุมเรียกเงินค่าปรับจำนวน 5 หมื่น แต่จ่ายค่าปรับเพียง 5,000 บาท  หลังจากนั้นปรากฎว่ามีผู้เสียหายอีกหลายคนที่ได้ไปแจ้งความเพราะโดนในลักษณะเดียวกันตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยต่อสื่อมวลชน หลังตัวแทนบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ของบริษัท ซาน เอ็กซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบหารือ ว่า หลังจากพูดคุยกับทางตัวแทนบริษัท ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ซาน เอ็กซ์ประเทศญี่ปุ่นแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ทางบริษัทได้ให้ข้อมูลว่า ทางบริษัทยืนยันว่าลายการ์ตูนบนกระทงที่นายประจักษ์ โพธิ์ผล ล่อซื้อจากเด็กหญิงวัย 15 ปี ไม่ใช่ลายรีลัคคุมะ แต่เป็นลายหมีธรรมดา หรือที่เรียกว่า “คุมะ” ในภาษาญี่ปุ่น ทำให้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์แต่อย่างใด  ทางบริษัทได้ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ก่อนที่จะมีการเข้าจับกุมว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่โดยจะมีสามขั้นตอนคือ 1.หากพบว่าละเมิดลิขสิทธิ์จริงทาง บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) จะติดต่อไปยังผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อชี้แจงและออกจดหมายเตือนครั้งที่หนึ่งโดยแจ้งให้ผู้ละเมิดหยุดการกระทำดังกล่าวทันทีหรือเร็วที่สุด และตรวจสอบว่าได้มีการแก้ไขตามที่ได้แจ้งหรือไม่  2. หากไม่มีการแก้ไขทางบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) จะติดต่อไปยังผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อชี้แจงและออกจดหมายเตือนครั้งที่สองโดยแจ้งให้ผู้ละเมิดหยุดการกระทำดังกล่าวภายในวันที่กำหนด  3. หากไม่มีการแก้ไขขั้นตอนต่อไปก็จะแจ้งทางเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่ออนุมัติให้ดำเนินการจับกุมตามกฏหมาย

พล.ต.อ.วิระชัย  กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายประจักษ์ อ้างว่าเป็นพนักงานบริษัท เวอริเซ็ค จำกัด ที่มีอำนาจในการจับกุมนั้น ทางบริษัท ซานเอ็กซ์ ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ญี่ปุ่น ได้ยืนยันว่ามีการยกเลิกสัญญาแล้วก่อนหน้านี้ โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกนายประจักษ์มาสอบปากคำและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีบุคคลที่ได้เสียค่าปรับ หรือดำเนินการไปก่อนหน้านี้ การทวงคืนจะต้องดูว่า หากการกระทำใดเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและทำให้เยาวชนหรือผู้ปกครองต้องจ่ายเงินค่าชดเชยหรือค่าชุดใช้ในการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ นั้นถือว่าเป็นลาภมิควรได้ที่คนได้ไปจะต้องคืน แต่หากการได้ไปนานเข้าองค์ประกอบของการกรรโชกทรัพย์ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนจะเข้าองค์ประกอบการกรรโชกทรัพย์หรือไม่นั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสองข้อมูล