นายกฯ ระบุยังไม่ประกาศเคอร์ฟิวชายแดนใต้ (คลิป)

2019-11-08 14:20:40

นายกฯ ระบุยังไม่ประกาศเคอร์ฟิวชายแดนใต้ (คลิป)

Advertisement

นายกฯระบุยังไม่ประกาศเคอร์ฟิว3 จังหวัดชายแดนใต้ ชี้เหตุคนร้ายบุกยิง  ชรบ. มีความคืบหน้าเร็วๆนี้

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องประกาศเคอฟิว แต่หากจะมีก็จะต้องเป็นช่วงสั้นที่สุด โดยเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นในการปิดพื้นที่เพื่อจับกุมคนร้าย ส่วนกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มหน้าขาวหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมีหลักฐานในการดำเนินการจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว ทั้งปืน ปลอกกระสุน ซึ่งจะนำมาประกอบการพิจารณาสืบสวนสอบสวน โดยเร็วๆนี้ เชื่อจะได้รับความคืบหน้า

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ขอเรียกว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่ยอมรับว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุใช้กลยุทธ์ ที่รุนแรง โดยใช้อาวุธสงคราม เพื่อให้เกิดการกดดันต่อรัฐ และการทำงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพยายามแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี พร้อมบังคับใช้กฎหมาย นำการพัฒนาเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งไม่อยากให้มีการตีความที่ผิดไป เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อคนในพื้นที่ ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายจึงจะต้องรัดกุม แต่คนนอกพื้นที่ กลับมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่อยากไปแล้วเมื่อสิทธิใคร แต่ขอให้ย้อนกลับไปดูสิ่งที่ผู้ก่อเหตุ กระทำว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ที่เป็นการทำร้ายประชาชนทั้งไทยพุทธมุสลิม

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมผู้เห็นต่าง ในพื้นที่อย่างแท้จริง ที่มาเลเซีย ซึ่งก่อนไปตนเองได้ให้แนวทางในการพูดคุย และทุกครั้งหลังการพูดคุยก็รายงานให้ตนรับทราบ ซึ่งการพูดคุยในครั้งนี้ จะเป็นประเด็นเพื่อให้สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้เกิดความปลอดภัยและมีสันติสุขอย่างยั่งยืน โดยการพูดคุยก็ต้องปรับ และหาวิธีการให้เหมาะสมไปอย่างต่อเนื่อง กับกลุ่มแนวร่วม หลายระดับ ทั้งกลุ่มผู้นำระดับการเมือง การทหาร คนรุ่นเก่า-ใหม่ เพื่อหาวิธีการ ลดความรุนแรง แต่ยืนยันว่า รัฐพูดคุยกับกลุ่มที่มีบทบาทแท้จริง ไม่ใช่นำกลุ่มที่ไม่มีบทบาทมาพูดคุย ทั้งนี้นอกจากการพูดคุย ในพื้นที่ก็ต้องมีการแก้ปัญหาในเรื่องของการข้ามแดน ซึ่งพบว่ามีการปลอมปนเข้ามากับชาวบ้านธรรมดา ซึ่งได้สั่งการให้ในพื้นที่ปฏิบัติการในเชิงรุก ระมัดระวังการใช้กฎหมายจะต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมยืนยันว่ากำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน.และ อาสารักษาความปลอดภัย ยังมีความจำเป็นในการดูแลพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ แต่จะต้องมีการเสริมยุทธวิธีให้เกิดความเข้มแข็ง ปรับการลาดตระเวนให้เกิดการรับกุม ซึ่งถือเป็นการให้คนในพื้นที่ช่วยกันดูแลพื้นที่ของตนเอง

ด้าน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่สามารถระบุตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้วจำนวนหนึ่ง และพบฐานปฏิบัติการร้าง 1 แห่ง โดยจะใช้แผนกดดันทุกพื้นที่ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยแล้ว 1 คน ที่ อ.ธารโต จ.ยะลา ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคงบังคับใช้กฎหมายด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการดำเนินชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ตามที่มีข่าวลือกันแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา ตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด