ย่องเข้ามอบตัวแล้ว! “แม่มิ้ง” สาวสุพรรณ เท้าแชร์ “บ้านน้องปริมพารวย” หลังกลุ่มผู้เสียหายทยอยแแจ้งความ เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณี กลุ่มผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่แม่มิ้ง กลุ่ม “บ้านน้องปริมพารวย” จำนวนมากแห่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี หลังจากถูกเท้าแชร์ “บ้านน้องปริมพารวย” แม่มิ้ง อายุ 25 ปี บ้านอยู่หมู่ 8 ต.วัดโบสถ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี หลอกชวนร่วมลงทุนหรือแชร์ลูกโซ่ ออมเงินออมทอง รายเดือนและราย 7 วัน โดยแม่มิ้ง น.ส.วิจิตรา อ้างว่า ได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 50-60 จนกระทั่งต่อมาไม่สามารถติดต่อแม่มิ้งเท้าแชร์ได้ ความเสียหายราว 10 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้มาร่วมลงทุนทั้งในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และต่างจังหวัดรวมทั้งหมดน่าจะราว 400 ราย คาดว่ามูลค่าความเสียหายน่าจะถึงหลัก 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จ-260/2562 ลงวันที่ 5 พ.ย.2562 ข้อหา 1.ร่วมกันช่อโกงประชาชน 2.ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการช่อโกงประชาชน 3.ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ล่าสุดวันที่ 6 พ.ย. พ.ต.อ. สมพร พุกหอม ผกก.สภ. เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า น.ส.วิตรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันช่อโกงประชาชน เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งเรื่องทรัพย์สินที่ถูกผู้ต้องหายักย้ายถ่ายโอนไปแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาจะทำคนเดียวหรือจะร่วมกันกับผู้อื่นกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนทรัพย์สินที่ถูกผู้ต้องหาถ่ายเทไป ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปปง.จะเข้ามาช่วยตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับความเสียหายในเบื้องต้นนั้นจะยึดตามความเป็นจริงที่มีผู้เสียหายนำหลักฐานมาแจ้งความ ในเบื้องต้นยังไม่ถึง 100 ล้าน ขอให้ผู้เสียหายกรณีนี้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนได้ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนขอให้บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหายสูญเสียเงินไป นำหลักฐานเข้ามามอบและให้ข้อมูลได้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอด สำหรับพฤติการณ์ ของ น.ส.วิติตรา ผู้ต้องหานั้นจะเปิดวงเเชร์แล้วชักชวนให้คนที่สนใจเข้ามาร่วมออมเงิน ออมทอง ผ่านทางเฟซบุ๊ก
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวไม่เปิดเผยข้อมูลแจ้งว่า แม่มิ้ง เท้าแชร์ “บ้านน้องปริมพารวย” รายนี้ได้มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ว่าจะหลอกเหยื่อให้มาร่วมลงทุนให้มากที่สุด ถ้าหากกรณีของแม่มณี ไม่เกิดเป็นข่าวโด่งดังเสียก่อน เชื่อว่าอีกราว 2 เดือน แม่มิ้งจะสามารถชวนเหยื่อมาร่วมลงทุน และรวบรวมเงินได้ถึง 200 ล้านบาท จากนั้นแม่มิ้งก็จะปิดกลุ่มแชร์แล้วหอบเงินหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่กลุ่มแชร์ของแม่มณี มาตกเป็นข่าวและถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน กลุ่มของแม่มิ้งจึงได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ไม่เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้
ส่วนทรัพย์สินล่าสุด แม่มิ้ง ถูกลูกแชร์ที่มาร่วมลงทุนรายใหญ่จำนวนเงินหลักล้าน ตามมาทวงเอาเงินสดไปหมดแล้วจำนวนเงินราว 4 ล้านบาท ในบัญชีธนาคารก็ไม่มีเงินเหลือแล้ว ส่วนทรัพย์สินมีค่าและรถยนต์ก็ถูกลูกแชร์ตามมายึดไปหมดแล้ว ล่าสุดแม่มิ้งไม่มีทรัพย์สินมีค่าและไม่มีเงินในบัญชีให้ลูกแชร์แล้ว ที่แม่มิ้งเดินทางเข้ามามอบตัวกับตำรวจก็เพราะว่ากลัวลูกแชร์ตามมาทวงหนี้ด้วย และกลัวจะไม่ปลอดภัยในชีวิตด้วยเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีลูกแชร์ผู้เสียหายรายหนึ่งที่ไปร่วมทวงหนี้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ที่หน้าบ้าน ดังนั้นแม่มิ้ง จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิตจึงไม่ขอยื่นประกันตัว เพราะถ้าหากประกันตัวไปก็จะถูกลูกแชร์ตามเช็คบิลอย่างแน่นอน ขณะที่ผู้เสียหายหลายรายที่ทราบข่าวว่าแม่มิ้งเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทยอยกันเดินทางเพื่อมารอดูตัวแม่มิ้งกันอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พ.ต.ท. ปรีชา ดำคำทา รอง ผกก.(สอบสวน) หัวห้างานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน รับแจ้งความจากผู้เสียหายที่นำหลักฐานมาแจ้งความไว้แล้วจำนวน 29 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 11 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง ในเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายน่าจะอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณี กลุ่มผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่แม่มิ้ง กลุ่ม “บ้านน้องปริมพารวย” จำนวนมากแห่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี หลังจากถูกเท้าแชร์ “บ้านน้องปริมพารวย” แม่มิ้ง อายุ 25 ปี บ้านอยู่หมู่ 8 ต.วัดโบสถ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี หลอกชวนร่วมลงทุนหรือแชร์ลูกโซ่ ออมเงินออมทอง รายเดือนและราย 7 วัน โดยแม่มิ้ง น.ส.วิจิตรา อ้างว่า ได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 50-60 จนกระทั่งต่อมาไม่สามารถติดต่อแม่มิ้งเท้าแชร์ได้ ความเสียหายราว 10 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้มาร่วมลงทุนทั้งในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และต่างจังหวัดรวมทั้งหมดน่าจะราว 400 ราย คาดว่ามูลค่าความเสียหายน่าจะถึงหลัก 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จ-260/2562 ลงวันที่ 5 พ.ย.2562 ข้อหา 1.ร่วมกันช่อโกงประชาชน 2.ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการช่อโกงประชาชน 3.ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ล่าสุดวันที่ 6 พ.ย. พ.ต.อ. สมพร พุกหอม ผกก.สภ. เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า น.ส.วิตรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันช่อโกงประชาชน เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งเรื่องทรัพย์สินที่ถูกผู้ต้องหายักย้ายถ่ายโอนไปแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาจะทำคนเดียวหรือจะร่วมกันกับผู้อื่นกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนทรัพย์สินที่ถูกผู้ต้องหาถ่ายเทไป ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปปง.จะเข้ามาช่วยตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับความเสียหายในเบื้องต้นนั้นจะยึดตามความเป็นจริงที่มีผู้เสียหายนำหลักฐานมาแจ้งความ ในเบื้องต้นยังไม่ถึง 100 ล้าน ขอให้ผู้เสียหายกรณีนี้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนได้ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนขอให้บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหายสูญเสียเงินไป นำหลักฐานเข้ามามอบและให้ข้อมูลได้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอด สำหรับพฤติการณ์ ของ น.ส.วิติตรา ผู้ต้องหานั้นจะเปิดวงเเชร์แล้วชักชวนให้คนที่สนใจเข้ามาร่วมออมเงิน ออมทอง ผ่านทางเฟซบุ๊ก
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวไม่เปิดเผยข้อมูลแจ้งว่า แม่มิ้ง เท้าแชร์ “บ้านน้องปริมพารวย” รายนี้ได้มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ว่าจะหลอกเหยื่อให้มาร่วมลงทุนให้มากที่สุด ถ้าหากกรณีของแม่มณี ไม่เกิดเป็นข่าวโด่งดังเสียก่อน เชื่อว่าอีกราว 2 เดือน แม่มิ้งจะสามารถชวนเหยื่อมาร่วมลงทุน และรวบรวมเงินได้ถึง 200 ล้านบาท จากนั้นแม่มิ้งก็จะปิดกลุ่มแชร์แล้วหอบเงินหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่กลุ่มแชร์ของแม่มณี มาตกเป็นข่าวและถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน กลุ่มของแม่มิ้งจึงได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ไม่เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้
ส่วนทรัพย์สินล่าสุด แม่มิ้ง ถูกลูกแชร์ที่มาร่วมลงทุนรายใหญ่จำนวนเงินหลักล้าน ตามมาทวงเอาเงินสดไปหมดแล้วจำนวนเงินราว 4 ล้านบาท ในบัญชีธนาคารก็ไม่มีเงินเหลือแล้ว ส่วนทรัพย์สินมีค่าและรถยนต์ก็ถูกลูกแชร์ตามมายึดไปหมดแล้ว ล่าสุดแม่มิ้งไม่มีทรัพย์สินมีค่าและไม่มีเงินในบัญชีให้ลูกแชร์แล้ว ที่แม่มิ้งเดินทางเข้ามามอบตัวกับตำรวจก็เพราะว่ากลัวลูกแชร์ตามมาทวงหนี้ด้วย และกลัวจะไม่ปลอดภัยในชีวิตด้วยเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีลูกแชร์ผู้เสียหายรายหนึ่งที่ไปร่วมทวงหนี้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ที่หน้าบ้าน ดังนั้นแม่มิ้ง จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิตจึงไม่ขอยื่นประกันตัว เพราะถ้าหากประกันตัวไปก็จะถูกลูกแชร์ตามเช็คบิลอย่างแน่นอน ขณะที่ผู้เสียหายหลายรายที่ทราบข่าวว่าแม่มิ้งเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทยอยกันเดินทางเพื่อมารอดูตัวแม่มิ้งกันอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พ.ต.ท. ปรีชา ดำคำทา รอง ผกก.(สอบสวน) หัวห้างานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน รับแจ้งความจากผู้เสียหายที่นำหลักฐานมาแจ้งความไว้แล้วจำนวน 29 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 11 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง ในเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายน่าจะอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท