“จุรินทร์” เปิดบูธโชว์สินค้าไทยขายในจีน (คลิป)

2019-11-06 16:15:55

“จุรินทร์” เปิดบูธโชว์สินค้าไทยขายในจีน (คลิป)

Advertisement

“จุรินทร์” เปิดบูธโชว์สินค้าไทยขายในจีน รุกเพิ่มตลาดทุกทางเพื่อเพิ่มโอกาส ดันยอดส่งออกไทยไปจีน เปิดห้องไทยใน"อาลีบาบา " แพลตฟอร์มออนไลน์ นับ 1ได้จริงทันทีในเดือนนี้

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดบูธจัดแสดงสินค้าไทย พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเซี่ยงไฮ้ชื่อดัง คือ หลูเจี้ยนจากซีซีทีวีช่อง4 ประเทศจีน เพื่อแนะนำสินค้าไทยซึ่งมีทั้งอาหาร เครื่องสำอาง สมุนไพร สินค้าเพื่อสุขภาพ ขนมขบเคี้ยว และสินค้าหลายสไตล์ ทั้งนี้ส่งเสริมการขายโดยนายจุรินทร์ทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนประเทศ นอกจากนั้นยังให้สัมภาษณ์ซีซีทีวีช่อง 13 อีกด้วย


โดยประเทศไทยเข้าร่วม 2 ส่วน คือ Thailand Pavilion เป็น 1 ใน 15 ประเทศ Country of Honor พื้นที่ 256 ตารางเมตร จัดแสดงศักยภาพด้านการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวนวัตกรรม และในส่วนของธุรกิจและการลงทุนในจีน Enterprise & Business Exhibition มี ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 46 ราย โดยมีหน่วยงาน GIT การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและการยางแห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วยโดยในส่วนการจัดแสดงนี้มีนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมคณะให้การต้อนรับ

ก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาเช้า 09.00 น.รองนายกรัฐมนตรี และคณะเข้าร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูง Alibaba ที่โรงแรม Jin Jiang Tower เพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีไทยให้เข้าสู่แพลตฟอร์ม การค้าออนไลน์ระดับนานาชาติ ข้อตกลงเรื่องเพื่อพัฒนาสินค้าไทย และบุคลากรด้านดิจิทัล การตั้ง TOPTHAI Flagship Store บน Tmall Global จําหน่ายสินค้าแฟชั่น Personal Care อาหาร เป้าหมายโดยผู้ประกอบการไทย เข้าร่วม 100 บริษัท ทั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าไทย ในส่วนประเด็นหารือเพิ่มเติม คือร่วมมือการส่งเสริมการตลาดและส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ยางพารา มันสําปะหลัง ปาล์มน้ํามัน ข้าว ผลไม้ และสินค้าศักยภาพ อื่นๆ ของไทย ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ จัดกิจกรรมมหกรรมออนไลน์วันประเทศไทย(Thailand Day) เพื่อส่งเสริมภาพ ลักษณ์ กิจกรรมทางการตลาด และการท่องเที่ยวของ ประเทศไปสู่ผู้บริโภคชาวจีน ถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่และความรู้ที่สามารถช่วย อํานวยความสะดวกในการทําธุรกิจและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้มีโอกาสมาร่วมงานมหกรรมการนำเข้าสินค้าทั่วโลกของจีน คืองาน Expo ที่จีน ที่เปิดโอกาสให้ประเทศในโลกที่สนใจ จัดแสดงสินค้าเพื่อผู้ประกอบการจากจีนนำเข้ามาบริการผู้บริโภคในประเทศจีนได้ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 สำหรับปีนี้พิเศษเพราะปีที่แล้วเรายังไม่ได้รับเกียรติมากเท่านี้ปี เพราะปีก่อนนั้นเราต้องหาพื้นที่กระจัดกระจาย แต่ปีนี้เราเป็นแขกพิเศษของจีน มีพื้นที่การจัดแสดงสินค้าของไทยโดยเฉพาะหรือที่เรียกว่า Thai Pavilion โดยเฉพาะทำให้บูทต่างๆที่มาจัดแสดงที่นี่มีความโดดเด่น สินค้าที่เรานำมาเป็นสินค้าที่ได้คุณภาพผ่านกระบวนการในการคัดสรรของกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า งานจัดแสดงปีที่แล้วเราสามารถทำเงินเข้าประเทศได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้ตนคิดว่าไม่น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้วแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวในหลายประเทศของโลก รวมทั้งจีนด้วย จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการที่จะโฆษณาสินค้าคุณภาพมาตรฐานของไทยไปสู่ผู้บริโภคชาวจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากและเป็นที่ต้องการสินค้าที่เรานำมาแสดงส่วนใหญ่เป็นสินค้าสำคัญ เช่น สินค้าทางการเกษตรจากข้าวผลิตภัณฑ์จากข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์จากยางพารา อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆและในเรื่องของมันสำปะหลังจากแป้งมัน และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลไม้ไทยและสินค้าเกษตรแปรรูป ซึ่งมีความหลากหลายมาก รวมทั้งหมวดอาหารแปรรูป และหมวดสำคัญที่สุดอีกหมวดหนึ่ง คือ หมวดที่มีการใช้นวัตกรรมในการแปรรูปสินค้าพื้นฐานของเราไปเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เอามาแสดง เช่น เครื่องสำอาง น้ำมันใส่ผม รวมทั้งเครื่องหอมสำหรับสปา และหมวดอื่นๆ อันนี้คือจุดเด่นของเราที่นำมาแสดงรอบนี้

"หัวใจสำคัญคือมาครั้งนี้เรามีการเพิ่มความเข้มข้นในเรื่องความร่วมมือกับอาลีบาบาที่จะเปิดโอกาสให้สินค้าของไทยสามารถเข้าไปขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มของอาลีบาบาได้ซึ่งเที่ยวนี้เปิดโอกาสให้เรามีห้องไทยโดยเฉพาะซึ่งเราสามารถนำสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานมาไว้ในห้องไทย และเมื่อใครเข้าไปในแพลตฟอร์มของอาลีบาบาก็สามารถค้นหารายการสินค้าไทยได้ ซึ่งคนจีนนิยมมากเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้สินค้าไทยสามารถมาเพิ่มตลาดออนไลน์โดยไม่จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มของเราเองแต่ใช้อาลีบาบาเป็นกลไกในการเพิ่มตัวเลขการส่งออก " นายจุรินทร์ กล่าว

นอกจากนั้น ยังกล่าวว่า อาลีบาบามีซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อร้าน เหอหม่า ซึ่งปัจจุบันมี 180 แห่งและกำลังขยายเพิ่มเป็น 400 แห่งในปีถัดไป ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เรามาจับมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับเหอหม่า ที่จะช่วยให้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทยไปสู่ชั้นวางของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตของเหอหม่าได้ ณ ตอนนี้มียอดขายประมาณ 2,500 ล้านบาทในอนาคตอันใกล้มั่นใจว่าเมื่อเขาขยายเพิ่มเติมเราจะมียอดเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท ได้ในไม่ช้า และตนเพิ่งไปดูมาแล้วเมื่อวาน(5พย.2562) สินค้าไทยเป็นที่นิยมทั้งผลไม้อาหารแปรรูป เครื่องแกง เครื่องปรุงรส และสินค้าอื่นๆจากคนไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยให้นำไปใช้บนชั้นวางของเหอหม่าได้ โดยจะเริ่มได้ภายในเดือนนี้ก็จะเปิดห้องไทยในแพลตฟอร์มของอาลีบาบาโดยช่วงเริ่มต้นจะมี 45 บริษัทที่จะไปเปิดห้องไทยในอาลีบาบา