"แม่มณี-แฟนหนุ่ม"นอนคุก ตร.เตรียมฝากขังต่อ 4 พ.ย.

2019-11-02 23:00:53

"แม่มณี-แฟนหนุ่ม"นอนคุก ตร.เตรียมฝากขังต่อ 4 พ.ย.

Advertisement

"แม่มณี-แฟนหนุ่ม"นอนคุก ตร.เตรียมฝากขังต่อศาลจังหวัดอุดรธานี 4 พ.ย.นี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้าน "แม่มณี" ยังให้การภาคเสธ รับว่าได้มีการให้สมาชิกออมเงินจริงแต่ไม่ได้โกงเงิน แค่ยังไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยเท่านั้น

จากกรณีมีผู้เสียหายแชร์แม่มณีเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ให้ดำเนินคดีกับ แม่มณี หรือ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช แม่ค้าขายตุ๊กตาออนไลน์ ชาว ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 93 มีผู้เสียหายแจ้งความจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท และทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษแล้วนั้น

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 พ.ย. เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล นำกำลังกว่า 20 นาย เข้าจับกุม น.ส.วันทนีย์ หรือ แม่มณี ทิพย์ประเวช อายุ 28 ปีและนายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี แฟนหนุ่ม 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ในข้อหาข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยจับกุมตัวได้ภายในร้านตัดผมชาย ชื่อ ป้าบาร์เบอร์ ซึ่งเป็นตึกแถว 2 ชั้น เลขที่ 35/20 กลางชุมชนเมืองตลาดเอกธานี กม.10 หมู่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากการสอบสวนแม่มณียังให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้มีการให้สมาชิกออมเงินจริงแต่ไม่ได้โกงเงิน แค่ยังไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้ลูกแชร์เท่านั้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวแม่มณีกับแฟนหนุ่มเดินทางโดยรถยนต์มาที่กองบินตำรวจ กรุงเทพฯ ก่อนจะขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อไปจ.อุดรธานี โดยเครื่องบินจะไปลงที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี

ด้าน พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.บช.ภ.4 กล่าวว่า แม่มณีกับสามีได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี ได้ประมาณ 3-4 วัน ขณะจับกุมมีเงินติดตัวเพียง 13,000 บาทเท่านั้น ขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทั้งหมด โดยตำรวจได้ขยายผลการสืบสวนพร้อมอายัดรถยนต์ 3 คัน และบ้านพักอีก 2 หลังในกรุงเทพฯ จากนี้จะต้องขยายผลต่อไป

ต่อมาเวลา 17.45 น. วันที่ 2 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว แม่มณีและแฟนหนุ่ม ขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาถึงสภ.เมืองอุดรธานี ก่อนนำตัวเข้าห้องสอบสวน จากนั้นเจ้าหน้าที่ให้แม่มณีดูของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ภายในอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่แม่มณีซื้อและเช่าไว้ โดยเชื่อว่าเป็นสถานที่ไลฟ์สดจัดฉากเป็นร้านทอง แต่ทองทั้งหมดเป็นทองปลอม นอกจากนี้ยังมีตู้เซฟขนาดกลางอีก 1 ตู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้แม่มณีเป็นคนเปิดเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ข้างใน แต่เจ้าตัวอ้างว่าต้องใช้กุญแจเปิดพร้อมกับใส่รหัส แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่ากุญแจอยู่ที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ช่างกุญแจพยามยามเปิดอยู่

ด้าน พ.ต.อ.สราวุธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้จะได้ควบคุมตัวแม่มณีกับแฟนหนุ่มไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาของโรงพักเพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม และจะส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดอุดรธานีในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ขณะที่มียอดของผู้เสียหายที่มาแจ้งความแล้วตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 1 พ.ย. รวมจำนวน 232 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 128 ล้านบาท เบื้องต้นสอบปากคำไปแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้คาดว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนและส่งต่อให้ดีเอสไอได้ทันในวันที่ 15 พ.ย.นี้    

ต่อมา พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 แถลงข่าวการจับกุมตัว แม่มณีและแฟนหนุ่ม ว่า ทางตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และ สภ.เมืองอุดรธานี ได้ขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมขบวนการโดยเข้าตรวจค้นบ้านและอาคาร 6 จุด พบหลักฐานทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ เอกสาร ซึ่งจะได้ตรวจสอบอายัด ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป เบื้องต้นทราบว่าได้จดทะเบียนเพื่อทำธุรกิจ ทั้งที่จดแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งน้ำปลาร้า, เครื่องสำอาง, อาหารเสริม, ร้านทอง และบางธุรกิจมีหลายสาขา โดยได้อายัดอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา ที่แม่มณีเป็นผู้ครอบครอง และอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 1 คูหา มี น.ส.ธวัลรัตน์ ทิพย์ประเวช มารดาของแม่มณีเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และยังมีรถยนต์หรู 3 คัน โฉนดที่ดิน รวมมูลค่าทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์ รวม 22.1 ล้านบาท ส่วนทองปลอมแม่มณียอมรับว่าซื้อมาจาก จ.ขอนแก่น ที่ซื้อเหมามาเป็นกิโล เพื่อมาสร้างภาพในการไลฟ์สดสร้างความน่าเชื่อถือ  

พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำผู้เสียหาย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้สอบปากคำผู้เสียหายแล้วกว่า 200 ปาก ซึ่งวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.นี้ จะนำผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล และคัดค้านการประกันตัว ส่วนสำนวนการสอบสวนตอนนี้ดีเอสไอได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้รวบรวมคดีที่เกิดขึ้นในภาค 4 และภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมส่งสำนวนให้ดีเอสไอ