ฆ่าเศรษฐีนีนักบุญ ตอกย้ำสังคมห้ามไว้ใจคน

2019-11-01 20:00:48

ฆ่าเศรษฐีนีนักบุญ ตอกย้ำสังคมห้ามไว้ใจคน

Advertisement

ในที่สุดก็โดนตำรวจรวบตัวได้แล้ว "ไอ้เอ็ม" นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร หนุ่มวัย 39 ปี ชาวลำปาง ผู้ต้องหาสังหารโหด น.ส.วรรณี จิระเจริญยิ่ง เศรษฐีนีนักปฏิบัติธรรม ที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่


หลังขับรถมอเตอรไซค์หลบหนีหัวซุกหัวซุน ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมทองคำ 5 บาทและเงินสดติดตัว 1.2 ล้านบาท หมดโอกาสจะได้ใช้เงินต่อ

ก่อนหน้านั้น หลังสังหารเศรษฐีนียัดตู้เย็นโบกปูนเสียบปลั๊กไฟป้องกันกลิ่นเน่า เพื่อให้มีเวลาหลบหนี เขาได้สวมบทหนุ่มเจ้าสำราญ ขับรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยูของเหยื่อ ตระเวณเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มหลายแห่งทั้งในเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง บางกระแสระบุว่า พาแฟนสาวคนใหม่ ช้อป ชิม ใช้กระจายทีเดียว


ก่อนจะพาแฟนใหม่นั่งเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ แล้วเช่ารถเก๋งฮอนด้าขับพาไปถึงบ้านเพ จ.ระยอง ก่อนลงเรือพาข้ามไปเที่ยวเกาะเสม็ด

ระหว่างนั้น แฟนสาวคนใหม่ ได้โพสต์ภาพบรรยากาศแบบดี๊ดี ทั้งท่องเที่ยว กินอาหารทะเล พักรีสอร์ทราคาแพง จึงเป็นเบาะแสชั้นดีสำหรับตำรวจในการติดตามล่าตัว

ช่วงนั้น นายวิฑูรย์ ซึ่งคงทราบข่าวการพบศพเหยื่อนักปฏิบัติธรรมแล้ว และรู้ว่ากำลังถูกตำรวจไล่ล่าตัว ได้ออกอุบายให้แฟนใหม่นั่งเครื่องกลับเชียงใหม่ก่อน ส่วนตนจะทำธุระแล้วจะตามไปทีหลัง

ทันที่แตะสนามบินเชียงใหม่ แฟนสาวจึงถูกตำรวจที่รอดักอยู่ก่อนแล้ว เข้าล็อคตัวไปสอบปากคำ ขณะที่เจ้าตัว หนีกระเจิดกระเจิงไปจังหวัดนครปฐม ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮอนด้า ราคา 1.6 แสนบาท แต่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จากนั้นขับอย่างไร้จุดหมายไปที่จังหวัดกาญจนบุรี ออกไปที่ อ.เลาขวัญ ก่อนจะเข้า อ.ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ตัดผ่านชัยนาท เข้าจังหวัดนครสวรรค์

จุดหมายปลายทางครั้งนี้ เจ้าตัวสารภาพหลังถูกจับตัวได้ว่า จะมุ่งหน้าไปที่ชายแดน อ.แม่สอด จังหวัดตาก คาดหมายว่า จะหวังข้ามเขตแดนไทยหลบหนีไปเมียนมาร์ แต่ถูกรวบตัวเสียก่อน

ฟังจากคำให้สัมภาษณ์ของตำรวจกองปราบฯ ที่ปฏิบัติการร่วมกับตำรวจภาค 5 เจ้าของพื้นที่ต้นเหตุ แรงจูงใจการสังหารเพราะอยากได้เงิน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเนื่องจากรู้จักมักคุ้นกับผู้ตายเป็นอย่างดี

เนื่องจากนายวิฑูรย์ มีอาชีพขับรถสี่ล้อเหลือง สายเชียงใหม่-จอมทอง คอยวิ่งรับส่งกลุ่มแม่ชีและนักปฏิบัติธรรม ที่ขึ้นไปวัดพระธาตุศรีจอมทอง รวมทั้ง น.ส.วรรณี ซึ่งสนิทและไว้ใจถึงขั้นให้ช่วยถือข้าวของที่ซื้อตามห้างให้ และเข้าใจว่า คงเคยนำสินค้าที่ซื้อไปส่งให้ถึงอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุหลายครั้ง

กระทั่งนำไปสู่ความไว้วางใจ และชะล่าใจ กระทั่งกลายเป็นเหยื่อถูกสังหารภายในที่พักของตัวเอง

สะท้อนให้เห็นภัยร้ายที่พร้อมจะเกิดขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์คนที่อยู่รอบข้าง ด้วยความไว้ใจ แต่อีกฝ่ายกลับมีจิตใจโหดร้ายอำมหิตโลภโมโทสัน หรือโกรธแค้นชิงชัง


คล้ายๆ กับหลายคดีที่มีเกิดขึ้นให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ที่โด่งดังมากๆ และยังเป็นที่จดจำได้ดีของผู้คน เช่น คดี "เปรี้ยว" น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย ร่วมกับผองเพื่อน ฆ่าสังหารและหั่นศพ "แอ๋ม" เพื่อนสาวคาราโอเกะด้วยกันที่ขอนแก่น เมื่อปี 2560 หรือข่าว "เสี่ยอ้วนภูเก็ต" นายปัญญา ยิ่งดัง จ้างมือปืนยิง "น้องสปาย" และเพื่อนสนิทดับที่ลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อปี 2561


และหากสังเกตุให้ดี จะพบว่าข่าวโหดเข่นฆ่าสาระพัด โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ มานี้ จะเกี่ยวโยงหรือฝีมือคนใกล้ชิด คนสนิทสนมกัน หรือรู้จักมักคุ้นกันเสียเป็นส่วนใหญ่

สังคมไทยกำลังถดถอย เสื่อมทราม ไร้ราก ถึงขั้นไว้ใจใครไม่ได้อีกแล้ว?