ศาลพิพากษาคดีชนรถเซนติเมตรตกคันคลองชลประทานกลางเมืองเชียงใหม่ จำคุกคู่กรณี 3 ปี และปรับ 4 หมื่นบาท
จากกรณีที่ นายจตุรภัทร เข็มนาค หรือ “เซนติเมตร” อายุ 28 ปี สไตลิสต์ชื่อดังในแวดวงแฟชั่นไทย ได้ประสบอุบัติเหตุ รถยนต์เฉี่ยวชนกัน ก่อนที่รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌห 3963 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายจตุภัทร เป็นคนขับ พร้อมด้วยนายศุภกิจ หรือโจ้ เกิดช้ำ อายุ 30 ปี ซึ่งได้นั่งมาด้วย พุ่งตกลงไปในคลองบริเวณสะพานทางเข้าวัดอุโมงค์ ถนนคันคลองชลประทานเชียงใหม่ 700 ปี ต.สุเทพ จนเป็นเหตุทำให้ นายจตุรภัทร เข็มนาค หรือ “เซนติเมตร” เสียชีวิต ส่วนรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน สศ 9790 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของคู่กรณี โดยมี น.ส.วิจิตรา อายุ 25 ปี จะพุ่งชนราวสะพาน ซึ่งที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุได้มีการฟ้องร้องกัน
โดยล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการตัดสินคดีที่ นายประทิน เกิดช้ำ อายุ 65 ปี และนางประคอง เกิดช้ำ อายุ 64 ปี ผู้ปกครองนายศุภกิจ เกิดช้ำ อายุ 30 ปี เป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้อง น.ส.วิจิตรา อายุ 25 ปี เป็นจำเลยต่อศาลในความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทำทรัพย์สินเสียหาย และขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร” โดยศาลพิเคราะห์ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปี และปรับ 4 หมื่นบาท ขับรถฝ่าฝืนการจารจร ปรับ 1,000 บาท รวมแล้วปรับ 4 หมื่น 1 พันบาท แต่ทางจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาจึงมีเหตุบรรเทาโทษลดให้จำเลยกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 2 หมื่น ห้าร้อยบาท และศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับจำเลยได้ชดใช้เงินให้โจทก์ร่วมทั้งสองมาแล้วส่วนหนึ่ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยชำระเงินให้โจกย์ร่วมทั้งสองเป็นเงินค่าปรงศพจำนวน 3 แสนบาท และให้ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสองคนละ 5 แสนบาท พร้อมอัตราร้อยละ 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระแก่โจทก์ทั้งสองแล้วเสร็จ
ทั้งนี้หลังเสร็จสิ้นคำพิพากษา ทางด้านนายประทิน เกิดช้ำ อายุ 65 ปี และนางประคอง เกิดช้ำ อายุ 64 ปี ผู้ปกครองนายศุภกิจ เกิดช้ำ หรือ“เซนติเมตร” ได้กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจ ที่ศาลท่านได้เมตตา ซึ่งเรื่องนี้ หากทางฝ่ายของ น.ส.วิจิตรา คนขับรถเข้ามาพูดคุยกันตั้งแต่แรกก็คงไม่มีการฟ้องศาลอะไรแบบนี้ แต่ทางฝ่าย น.ส.วิจิตรานั้นไม่ยอมเข้ามาคุยหรือติดต่ออะไร ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับการเยียวยาแล้ว 2 แสนบาท