“บิ๊กป้อม” เดินหน้าผลักดัน จชต.ทัดเทียมภาคอื่น

2019-10-31 13:30:43

 “บิ๊กป้อม” เดินหน้าผลักดัน จชต.ทัดเทียมภาคอื่น

Advertisement

“บิ๊กป้อม”ย้ำทุกภาคส่วนขอร่วมกันจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชน เดินหน้าผลักดัน จชต.ให้ทัดเทียมภาคอื่น สู่การเป็นศูนย์กลางเชื่อมประเทศมุสลิมในภูมิภาค

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1/62 ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ไปสู่การปฏิบัติและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ที่ประชุมร่วมกันพิจารณา ขับเคลื่อนการทำงานด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ในการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยกำหนดให้ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” และให้ทุกส่วนราชการสนับสนุนแผนเร่งด่วนการลงทุนของภาคเอกชน และเห็นชอบร่วมกันในการเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในที่ดินทำกิน แผนบริหารจัดการที่ดินในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส กรอบแนวทางการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคง ผ่านโครงการ “ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ผ่านกลไก “สภาสันติสุขตำบล” โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งด้านการอำนวยความเป็นธรรมและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ทั้งด้านทุนการศึกษาและเงินยังชีพรายเดือน

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำ นโยบายและเป้าหมายของรัฐบาล ในการพัฒนาพื้นที่ จชต. ที่ต้องการเร่งรัดพัฒนาทุกมิติไปพร้อมกันตามวิถีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ให้มีความสมดุลและเท่าเทียมกับภูมิภาคอื่นของประเทศ โดยมุ่งสู่ความเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการพัฒนาในระดับอนุภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศโลกมุสลิม โดยย้ำ ความจำเป็นที่ทุกส่วนราชการ ต้องทำงานร่วมกันกับภาคประชาชนอย่างใกล้ชิด ร่วมกันขับเคลื่อนงานพัฒนา จชต. ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการจัดสรรให้มีที่ดินทำกิน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ปราศจากอิทธิพลกดทับ โดยต้องบังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ให้สามารถดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่าและมีศักดิ์ศรี ทั้งนี้ เชื่อว่า การสร้างงาน การสร้างอาชีพและสร้างโอกาสให้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ในพื้น จะเป็นต้นทางนำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จชต. 

นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ขอให้ทุกฝ่าย ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มี กอ.รมน.ภาค 4 ทำหน้าที่หลัก ด้านงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในขณะที่ ศอบต.เป็นเจ้าภาพ กำหนดเป้าหมายและกรอบการพัฒนาที่ชัดเจนตามลำดับ โดยมี สมช. ทำหน้าที่เชื่อมโยงมิติความมั่นคงและการพัฒนาอย่างประสานสอดคล้องกัน ซึ่งจำเป็นต้องให้น้ำหนักในการสื่อสารทำความเข้าใจและสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง