"อนุทิน" มั่นใจโครงการไฮสปีดเทรนเกิดการใช้จ่าย ศก.ขยายตัว

2019-10-25 14:30:53

"อนุทิน" มั่นใจโครงการไฮสปีดเทรนเกิดการใช้จ่าย ศก.ขยายตัว

Advertisement

"อนุทิน" มั่นใจหลังเซ็นสัญญารถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะมีการจ้างงาน เกิดการใช้จ่ายมหาศาล เศรษฐกิจขยายตัว มีเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการลงนามสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่าโครงการ 224,544.36 ล้านบาท ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเป็นประธาน เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า เป็นนิมิตหมายอันดี ที่แสดงให้เห็นว่าโครงการ EEC ไม่ใช่การขายฝัน แต่เรากำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ และมีความพร้อมในการรับการลงทุนจากทั่วโลก ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน มีความสำคัญ เพราะเป็นตัวจุดประกายความสำเร็จให้กับโครงการ EEC หลังจากการเซ็นสัญญาจะมีการจ้างงาน จะเกิดการใช้จ่ายมหาศาล เศรษฐกิจจะขยายตัว มีเงินอัดฉีดเข้าไปในระบบ และจะเกิดโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามมา

"การเจรจาจบแล้ว ถึงได้มีการลงนามในวันนี้ การลงนามที่มีนายกฯ เป็นประธาน มันต้องเอาจริง ต้องทำให้เสร็จ จะมาเล่นๆไม่ได้ โครงการไปได้แน่นอน และคิดว่าน่าจะเปิดใช้งานได้ตามกำหนดเวลา อย่างที่ผมเคยบอก อะไรที่ช่วยกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ก็ให้ช่วยเหลือกัน การตีความกฎหมาย อย่าไปตีหาอุปสรรค แต่ให้หาทางออก เพราะยิ่งทำได้เร็ว ยิ่งเกิดประโยชน์กับคนไทย"นายอนุทิน กล่าว

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า การสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการกรุงเทพฯ ขึ้นเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ลงไปสุราษฎร์ธานีล้วนอยู่ในแผนการพัฒนา แต่ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม อย่างไรก็ตามตอนนี้ ต้องจัดการเรื่องท่าเรือ และสนามบินอู่ตะเภา เพื่อผลักดันโครงการ EEC ก่อน