“ณัฏฐพล” ยอมรับงบประมาณ ศธ.อาจไม่เหมาะสม เหตุเพิ่งรับตำแหน่ง ยันใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จ่อเพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็กหลังไม่ขยับมา 5 ปี
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงศึกษาการ ว่าในช่วง 3 เดือนที่ตนมารับหน้าที่ ทราบถึงปัญหางบประมาณที่อาจจะไม่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่สั้น และอาจจะยังไม่เข้าใจระบบงบประมาณของกระทรวงศึกษาอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องโครงการต่างๆเกี่ยวกับดิจิทัลที่อาจจะใช้งบประมาณจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับฝึกอบรม การสัมมนา หากติดตามข่าวจะเห็นว่าตนได้ลดงบส่วนนี้ไปแล้ว และกำชับผู้บริหารกระทรวง ทุกหน่วยงานว่าให้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ยอมรับว่าหากเปลี่ยนแปลงโครงการที่อยู่ในงบประมาณปี 2563 อาจจะมีผลกระทบทำให้ต้องคืนงบประมาณเข้ากระทรวงการคลัง แต่ถ้าไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความเหมาะสม ได้กำชับผู้บริหารของกระทรวงว่าเราจะไม่ใช้
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาเรื่องอาหารกลางวัน เราไม่ได้มีการเพิ่มค่าอาหารกลางวันเป็นเวลา5 ปี อยู่ที่ 20 บาท และขณะนี้มีการวิเคราะห์แล้วว่า เราควรเพิ่มงบประมาณอาหารกลางวันเท่าไหร่ ที่มีการเสนอมา30 บาทนั้นตนไม่สามารถให้ครอบคุมเท่ากันทั้งประเทศได้ เพราะเราไม่สามารถตัดเสื้อโหลอีกต่อไป โรงเรียนที่มีขนาดเล็กอาจมีความต้องการงบประมาณอาหารกลางวันมากกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ ฉะนั้นการทำงานของกระทรวงต้องวิเคราะห์ถึงความจำเป็นและเหมาะสมโดยจะมีความยืดหยุ่นในการจัดสรรงบประมาณ สำหรับเรื่องงบประมาณที่สมาชิกเห็นว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มเติมนั้น ตนยอมรับว่ามีความจำเป็น โดยสมาชิกมีการพูดถึงตัวเลข 4.4 หมื่นล้านจากทีดีอาร์ไอ เป็นตัวเลขที่ไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับงบประมาณของกระทรวงศึกษาและ คุณภาพที่ได้รับ แต่ตนไม่สามารถขอตอนนี้ได้ เพราะในกระทรวงศึกษาเองยังมีความซับซ้อนในเรื่องของงบประมาณอยู่ เราต้องบริหารจัดการในส่วนของกระทรวงเอง โดยมั่นใจก่อนว่าสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นการจัดงบประมาณปี 2564 ตนมั่นใจว่าเราจะสามารถทำงบประมาณที่เหมาะสมกับการพัฒนาบุคคลากรของประเทศ ทั้งครู และนักเรียนได้