ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือ ผิดจากคาดหมาย เมื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกรุงเทพฯ ในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ส่งรายชื่อเขาเป็น 1 ใน 3 ผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
เพราะอารมณ์การใช้สิทธิ์เลือกตั้งของคนกรุงเทพฯ พลิกผันไปมาจับทางไม่ค่อยจะถูก พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยยึดเก้าอี้ ส.ส.กทม.แบบผูกขาดด้วยจำนวนเสียงส่วนใหญ่ในช่วงหลังๆ แต่เลือกตั้งล่าสุด ไม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. เลยแม้แต่คนเดียว
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐซึ่งหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพรรคเพื่อไทยซึ่งปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคใหม่ของคนรุ่นใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่ที่ชูการเมืองแบบใหม่ ได้รับเลือกจากคนกรุงเทพฯ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
แต่หากลงลึกไปดูจำนวนคะแนนที่คนกรุงเทพฯ เลือก ส.ส. พลังประชารัฐ 12 คน 845,365 คะแนน เพื่อไทย 9 คน 604,699 คะแนน และอนาคตใหม่ 9 คน 807,942 คะแนน เท่ากับคะแนนกระจายใน 3 พรรคใหญ่ โดยเพื่อไทย ได้ต่ำสุด
สะท้อนความนิยมพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่อเนื่องมาจากพรรคไทยรักไทย ที่เคยยึดเก้าอี้ ส.ส.กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งปี 2544 และ 2548 เริ่มถดถอยลงเป็นลำดับ
เลือกตั้ง ส.ส.ปี 2550 และ 2554 แม้เพื่อไทยจะยังมี ส.ส.ในกรุงเทพฯ เช่นเดิม แต่เป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับประชาธิปัตย์ ที่กลับมาครองเสียงข้างมากในพื้นที่ กทม.ได้อีกครั้ง
ประกอบกับเสียงคนกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งหันไปเทคะแนนให้ “บิ๊กตู่” ผ่านพรรคพลังประชารัฐ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มคนที่เบื่อการเมืองแบบเก่า อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ ต่างพร้อมใจไปลงคะแนนให้อนาคตใหม่
ทำให้การสมัครในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคเพื่อไทย น่าจะดีกว่า เพราะแฟนคลับเพื่อไทยก็น่าจะยังลงคะแนนให้ โดยเฉพาะเมื่อมีท่าทีสนับสนุนนายชัชชาติ ดังจากปากแกนนำเพื่อไทยเองอย่างนายภูมิธรรม เวชยชัย หรือนายปลอดประสพ สุรัสวดี และจะยิ่งได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น หากเพื่อไทยประกาศจุดยืนว่าจะไม่ส่งผู้สมัครแข่งขันด้วย
ขณะเดียวกัน ยังมีโอกาสจะดึงคะแนนจากกลุ่มที่ที่เคยสนับสนุนพรรคอื่นมาเติมเต็มได้ อย่าง พรรค ปชป. หรือจากกลุ่มพลังเงียบ ซึ่งจะมีส่วนในการกำหนดว่าใครจะเข้าวิน
ที่สำคัญและจะเป็นปัจจัยสานฝันรับประกันชัยชนะตามเป้า หากอนาคตใหม่ ไม่ตัดสินใจส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้จับตาดูผลเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม 23 ตุลาคม 2562 เป็นกรณีศึกษา หลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ส่งผู้สมัครลงตัดตะแนนกันเอง ยกเว้นพรรคเสรีรวมไทย ที่คาดว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนไม่มากนัก แต่สำหรับพรรคร่วมรัฐบาล อย่างประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ต่างส่งผู้สมัครทั้งคู่
นายชัชชาติ นอกจากจะเป็นอดีตรัฐมนตรีคมนาคมแล้ว ยังเคยเป็น ซีอีโอกิจการรายใหญ่ภาคเอกชน อย่างควอลิตี้ เฮ้าส์ ตำแหน่งทางวิชาการ ยังเป็น รศ.ดร. เป็นอดีตผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอดีตอาจารย์สอนวิศวกรรมโยธา เคยได้สมญาจากประชาชนตั้งให้ว่า บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
เหตุผลสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้มีผู้คนชื่นชอบและมีแฟนคลับมากมายเป็นการส่วนตัว คือเป็นคนติดดิน แต่งตัวและทำตัวสบายๆ แบบชาวบ้านทั่วไป บ่อยครั้งจึงมีภาพใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด โหนรถเมล์ เดินตลาด หรือแม้แต่เข้าวัดทำบุญ
ที่สำคัญ ยังไม่มีประวัติด่างพร้อย ทั้งทางธุรกิจ นักวิชาการ และนักการเมือง
แต่จะตรงตามสเปค ความต้องการของคนกรุงเทพฯ โดยเสียงส่วนใหญ่หรือไม่ ยังต้องลุ้นและมีอีกหลายปัจจัย เพราะตอนนี้ยังเป็นเพียงช่วง “วอร์ม อัพ” ยังไม่ถึงเวลา ลงสนามจริง
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ชัชชาติ สิทธิพันธุ์