“เรืองไกร”บุกยื่นหนังสือ “ชวน” ท้วงงบประมาณปี 2563 ส่อมีปัญหาไม่ทำตามขั้นตอน รธน. ข้องใจตัวเลขจีดีพีหน่วยราชการไม่ตรงกัน
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา แถลงข่าวภายหลังจากยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านเจ้าหน้าที่สารบรรณประจำสภาผู้แทนราษฎร เพื่อท้วงติงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ที่พบว่ามีปัญหาไม่ทำตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญปี2560 ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 17 ต.ค.นี้ ไม่ทำตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ เพราะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จัดทำขึ้นก่อนการแถลงนโยบายรัฐบาล โดย ผอ.สำนักงบประมาณลงนามเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในวันที่ 25 ก.ค.2562 ซึ่งทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงนามเห็นชอบวันที่ 26 ก.ค.2562 แต่การแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นวันที่ 27 ก.ค. ดังนั้นคำของบประมาณของหน่วยงานต่างๆ จึงไม่ได้ทำขึ้นใหม่ แต่นำคำของบประมาณต่อรัฐบาลชุดก่อนมาปรับปรุงตัวเลขพอเป็นพิธี นอกจากนี้ยังพบว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่สำนักงบประมาณจัดทำไว้วันที่ 7ม.ค.2562 ระบุไว้ที่วงเงิน 18.36 ล้านล้านบาท แต่ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.2562 สำนักงบประมาณได้ปรับลดจีดีพีลงมาเหลืออยู่ที่ 17.83ล้านล้านบาท แต่ปรากฏว่าวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ยังอยู่เท่าเดิมคือ 3.2 ล้านล้านบาท ไม่ได้ถูกปรับลดลงไปด้วย ทั้งๆที่จีดีพีถูกปรับลดลงไปแล้ว
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่า ตัวเลขจีดีพีเดือน ก.ย.2562 ของสำนักงบประมาณกับสำนักบริหารหนี้สาธารณะยังไม่ตรงกันคือ สำนักงบประมาณ ระบุไว้ที่ 17.8 ล้านล้านบาท แต่สำนักบริหารหนี้สาธารณะระบุจีดีพีไว้ที่ 17.6 ล้านล้านบาท ทั้งๆที่เป็นหน่วยราชการเหมือนกัน แต่เหตุใดตัวเลขจีดีพีจึงแตกต่างกัน อยากให้นายชวน ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ยึดมั่นข้อกฎหมายและส.ส.ช่วยตรวจสอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 มีความถูกต้องหรือไม่ เพราะหลักฐานต่างๆที่ตนนำมาแสดงนั้นก็ล้วนมาจากตัวเลขของหน่วยราชการทั้งสิ้น