เศร้า! เสือโคร่งของกลาง วัดหลวงตาบัวป่วยตาย 86 ตัว

2019-09-16 11:20:44

เศร้า! เสือโคร่งของกลาง วัดหลวงตาบัวป่วยตาย 86 ตัว

Advertisement

เสือโคร่งของกลางวัดป่าหลวงตาบัวฯ จ.กาญจนบุรี ที่ยึดมาเป็นของกลางตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 147 ตัว ตายแล้ว 86 ตัว ด้านเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้อ้างรอการแถลง

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติฯ แจ้งเหตุเสือโคร่งวัดป่าหลวงตาบัวฯ จ.กาญจนบุรี ที่ยึดมาเป็นของกลางตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 147 ตัว ตายแล้ว 86 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสือไซบีเรีย โดยพบสาเหตุป่วยตายด้วยโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียง

ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยข้อมูลว่า เสือที่ยึดมานั้นถูกดูแลเป็นอย่างดีตามหลักวิชาการ พร้อมขอให้มหาวิทยาลัยมหิดลตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนอีกครั้ง และระบุว่า เสือทั้งหมดค่อยๆทยอยตายไม่ได้ตายรวดเดียว




อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อพบกับ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า นายบรรพต ไม่อยู่ และห้ามเข้าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเสือโคร่งที่ยึดมาเป็นของกลาง จากวัดป่าหลวงตาบัวฯ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามทุกกรณี เพียงแต่อ้างว่า ต้องรอกรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดแถลงข่าว ซึ่งไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการแถลงข่าวเมื่อไหร่

ส่วนศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์ป่า เขาประทับช้าง ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมสัตว์ ก็พบว่ามีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเที่ยวชม โดยส่วนใหญ่รู้ว่าเสือที่ยึดไว้เป็นของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัวฯได้ตายไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ยังคงพาครอบครัวเดินทางมาเที่ยวชมและให้อาหารสัตว์ป่า



สำหรับเสือโคร่งของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัวฯ ถูกตรวจสอบและยึดเป็นของกลาง โดยกรมป่าไม้ ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 2544 เนื่องจากวัดครอบครองเสือโคร่ง สัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่กรมป่าไม้มอบหมายให้สัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย เป็นผู้ดูแลเสือของกลางและฝากไว้เลี้ยงไว้ที่วัดนี้ โดยจากเดิมที่มีพ่อแม่เสือของกลางเพียง 7 ตัว แต่ช่วง 15 ปีจำนวนเสือโคร่งเพิ่มขึ้นเป็น 148 ตัว ท่ามกลางการร้องเรียนจากต่างชาติ เรื่องการทรมานเสือด้วยการล่ามโซ่ การเลี้ยงดูเสือที่ไม่ดีตลอดจนความปลอดภัย และยังถูกระบุเป็นแหล่งลักลอบค้าเสือ จนรัฐบาลไทยถูกตั้งคำถามจากประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ต่อมาในเดือน พ.ค.-มิ.ย.2559 กรมอุทยานฯใช้กฎหมายบังคับย้ายเสือโคร่งมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง