นายกฯเยี่ยมชมวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี “สุเทพ” ต้อนรับอบอุ่น ก่อนโชว์ทำใบเหลียงผัดไข่ปลุกใจขอคนไทยตายเพื่อแผ่นดิน โวลังเลือกตั้งหัวกระไดไม่เคยแห้ง มีแต่คนอยากคบ บอกนักศึกษา “รักลุงสุเทพให้มาก ๆ เพราะเขาดูแลเรา”
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนของวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการบริหารวิทยาลัย พร้อมด้วยกรรมการวิทยาลัย อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายวิทยา แก้วภราดัย นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ุ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมห้องเรียน ห้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน คอมพิวเตอร์ นายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมห้องสาธิตการทำอาหาร โดยนายกรัฐมนตรี ได้ทำใบเหลียงผัดไข่ ด้วย พร้อมชิมอาหารที่ทำเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างทำอาหารก็ต้องใส่ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ลงไป ซึ่ง 3 สิ่งนี้จะทำให้อยู่ได้ ก่อนไปเยี่ยมชมแปลงเกษตร การจัดการเรียนการสอน เศรษฐกิจพอเพียง
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวระหว่างพบปะ นักศึกษา คณาจารย์ ผู้บริหารและประชาชนชาวเกาะสมุย ตอนหนึ่งว่า วันนี้เรามารวมตัวกัน เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างเรา คือคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นมาได้โดยรุ่นใดรุ่นหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว เราต้องทำความเข้าใจกันบนพื้นฐานของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหลักชัยของประเทศ วันนี้บ้านเรามีปัญหาหลากหลายมิติ ทั้งเสถียรภาพความมั่นคง การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เราต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ประเทศไทยมีศักยภาพพอสมควร แต่ปัญหาที่ไม่สามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะเรายังรักกันไม่พอ ทุกคนรักประเทศ แผ่นดินนี้เป็นของพระมหากษัตริย์ไทยที่รักษาไว้ให้คนไทย และเป็นจุดยุทธศาสตร์ของอาเซียน ซึ่งยึดโยงเศรษฐกิจโลกไว้หมด เราจึงต้องพัฒนาคนของเราด้วยการศึกษา รัฐบาลต้องบริหารงานแบบคิดใหม่ คือต้องสร้างคนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้ต่างประเทศมาเยี่ยมมาหาตนทุกวัน อยากจะร่วมมือกับไทยตรงนั้นตรงนี้ ยิ่งหลังเลือกตั้งที่ผ่านมา มากันจนหัวกระไดไม่แห้ง อย่าไปรับฟังใครที่บอกว่าเขาไม่คบเรา มีแต่คนอยากจะคบ และเราก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้อง นอกจากนี้ อยากให้คนไทยมีความคิดที่เป็นกระบวนการ มีหลักคิด
“ยิ่งวันนี้มีเฟคนิวส์ มีโลกโซเชียล แก้กันไม่ไหวไม่ทัน พอมันออกไปแล้วก็เชื่อกัน จึงต้องมีภูมิต้านทาน คือความรู้กับคุณธรรม อะไรที่เป็นไปไม่ได้ อย่าไปเชื่ออย่าไปอ่าน เสียเวลา ผมก็ต้องเลิกอ่านเหมือนกัน เพราะทำให้เครียด อ่านแล้วทำให้หงุดหงิดโมโห อย่าไปอ่านดีกว่า มันไม่ใช่ การสื่อสารที่ดีต้องเสนอให้คนมีแนวคิดได้ 2 ทาง คือใช่หรือไม่ใช่ ดีหรือไม่ดี สอนให้ด่าหรือชมเพียงอย่างเดียวมันไม่ใช่ ประเทศไทยมีคนเข้ามาท่องเที่ยว 30 กว่าล้านคน คาดว่าปีนี้จะถึง 40 ล้านคน แต่เรายังขัดแย้งกันเองภายใน มันใช่หรือไม่ใช่ในเวลานี้ รัฐบาลก็ต้องสร้างการลงทุนให้เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้ต้องไปพร้อมกันในชาติ ใครที่ทำให้ทุกอย่างเสียหายก็ฝากให้เราไปพิจารณาว่ามันควรหรือไม่ควร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญนอกจากชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้ว คือความกตัญญูกตเวทีพ่อแม่และครูบาอาจารย์ จริงๆอยากพูดมากกว่านี้ ถึงยิ่งพูดจะยิ่งโดน แต่รู้ว่ามาพูดกับพวกเรา ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะมีจิตมุ่งมั่นที่จะทำให้พวกเราทุกคน ไม่ได้มุ่งหวังอะไรอย่างอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย นายกฯได้เปิดเพลง "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี" จากโทรศัพท์มือถือส่วนตัว ให้เด็กๆฟัง โดยก่อนเปิดเพลงได้กล่าวว่า ลองฟังดู แต่ไม่รู้ว่าจะซาบซึ้งเหมือนที่ตนซาบซึ้งหรือไม่ แต่ตนซาบซึ้งเพราะเป็นทหารเก่า อยู่กับสิ่งเหล่านี้มาตลอดชีวิต จากนั้นเมื่อจบเพลง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกคนต้องมีเพลงนี้ เพราะเราคือคนไทยแผ่นดินไทย เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย แผ่นดินนี้มีให้เราเหยียบให้เราตาย นั่นคือสิ่งที่คนไทยต้องสำนึก และขอให้รักลุงสุเทพให้มากๆ เพราะเขาดูแลเรา
