นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ให้คำมั่นเมื่อวันอังคารว่าจะเปิดการเจรจาและเรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วงหยุดใช้ความรุนแรง หลังการประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์เกิดความรุนแรงอีกครั้ง การใช้ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาสังคมได้ พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกรณีรัฐสภาต่างชาติแทรกแซงกิจการของศูนย์การเงินแห่งเอเชียแห่งนี้
แลม กล่าวว่า มันไม่มีความเหมาะสมสิ้นดีสำหรับรัฐสภาต่างชาติต่างชาติที่แทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และเราจะไม่อนุญาตให้สหรัฐ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของฮ่องกง
แลม กล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงที่เสนอโดยรัฐสภาสหรัฐ เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงที่ไม่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง
ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน กล่าวหากองกำลังต่างชาติว่าพยายามทำลายปักกิ่งด้วยการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นในฮ่องกง และเตือนชาติอื่นอย่าแทรกแซงฮ่องกง โดยบอกว่า สถานการณ์ดังกล่าวเป็นกิจการภายในของจีน
ทั้งนี้ ระหว่างการชุมนุมที่สถานกงสุลสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงหลายพันคนเรียกร้องให้สหรัฐช่วยนำประชาธิปไตยมาสู่ฮ่องกง ผู้ประท้วงต้องการให้รัฐสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมาย ซึ่งจะทำให้สหรัฐมีสิทธิประเมินประจำปีว่า ฮ่องกงได้รับสิทธิในการปกครองตนเองจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเพียงพอหรือไม่ เพื่อพิจารณามอบสิทธิประโยชน์ทางการค้าและเศรษฐกิจของสหรัฐให้ฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จิม แมททิส อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า การประท้วงต่อต้านรัฐบาล ไม่ใช่เป็นเรื่องกิจการภายในของจีน และอย่างน้อยที่สุด สหรัฐควรจะเสนอการสนับสนุนด้านศีลธรรมให้แก่กลุ่มผู้ประท้วง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แลมได้ประกาศถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นต้นตอของการประท้วง ออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติอย่างเป็นทางการแล้วหลังการประท้วงวุ่นวายยืดเยื้อมานานกว่า 3 เดือน แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าว ไม่สามารถหยุดยั้งผู้ประท้วงให้ยุติการเคลื่อนไหวได้ ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่กระจายกำลังก่อเหตุทั่วฮ่องกง ไม่ต่างจากการเล่นเกมแมวไล่จับหนู
กลุ่มผู้ประท้วงได้ทำลายทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งทั่วฮ่องกง ทุบทำลายหน้าต่างและเริ่มเผาเศษซากต่าง ๆ บนท้องถนน