“จิรายุ” มอบฉายา “รัฐบาลเหลาเหย่” ฟันธง ศก.โตไม่ถึง 3%

2019-09-06 11:10:56

 “จิรายุ” มอบฉายา “รัฐบาลเหลาเหย่” ฟันธง ศก.โตไม่ถึง 3%

Advertisement

“จิรายุ” ฟันธงสิ้นปีเศรษฐกิจของประเทศไทยโตไม่ถึง 3% เตือนไตรมาส 4 ระวังดิ่งมอบฉายา “รัฐบาลเหลาเหย่”

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ประชาชนยังไม่กล้าลงทุนหรือใช้จ่ายอะไรมากนัก มีแต่ข้าวของแพงแต่รายได้ต่ำลง ขณะที่จะเข้าสู่ไตรมาสที่4ของปียังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะส่อให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศจะกระเตื้องขึ้น โอกาสที่จะทำให้ประชาชนจะอยู่ดีกินดีหน้าชื่นตาบาน มีแต่ติดลบ รังแต่จะมีเรื่องให้ขบคิดว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ ประชาชนจำต้องรักนวลสงวนเงินเก็บออมเอาไว้เพราะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เหลียวซ้ายก็เจอปัญหาหนี้สิน เหลียวขวาก็เจอนโยบายรัฐบาลที่ไม่แน่นอน จะเดินหน้าก็ไม่กล้าลงทุน ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ช่วงนี้ควรอยู่อย่างสงบประคองค่าใช้จ่ายให้พอตัวอย่าหลงคารมนโยบายตื้นๆที่ให้ไปเที่ยวหรือแจกเงิน เพราะเงิน พันกว่าบาท แค่ค่าน้ำมันรถไปกลับก็หมดแล้วเผลอๆกลับมาถึงบ้านอาจลมจับเพราะเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญเราไม่เห็นว่ารัฐบาลจะหาเงินจากไหน

นายจิรายุ กล่าวต่อ ว่าเสียดายโอกาสของประเทศไทย ตั้งแต่มีรัฐบาลมาจนถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรที่เป็นปัจจัยบวกดัชนีแทบทุกประเภทตกลงทุกตัวไม่ว่าจะเป็นดัชนีของความเชื่อมั่นที่ตกลงต่ำสุดในรอบ 33 เดือน ดัชนีการลงทุน ดัชนีการส่งออก ดัชนีความสุขของประชาชนลดลงทุกตัว ทั้งการดำเนินชีวิตภาวะค่าครองชีพปัญหายาเสพติด มีดัชนีเดียวที่ดีขึ้นคือดัชนีความสุขของ ครม.ที่ได้รับตำแหน่งเท่านั้น ทำให้มองเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนของรัฐบาลยังฉุดความมั่นใจของพี่น้องประชาชน

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 สามเดือนสุดท้ายของปีนี้ โดยปกติในภาวะที่รัฐบาลมีฝีมือในการบริหารประเทศทำงานเป็นทำงานเก่งมีวิสัยทัศน์ จะเป็นช่วงที่ประชาชนใช้เงินมากที่สุดแต่ในปีนี้จะเป็นช่วงวิบากกรรมของประชาชนมากที่สุด และตนขอฟันธงไว้เลยว่าจนถึงสิ้นปีนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยจะโตไม่ถึง 3% อย่างแน่นอน ดังนั้นตนจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเพราะถือว่าทำมาแล้วเกือบ 5 ปีครึ่ง ขืนยังแจกๆๆ อีกไม่นานก็จะต้อง กู้ๆๆ สุดท้ายคนเป็นหนี้สาธารณะก็คือประชาชนและถ้าทำผลงานได้แค่นี้ต้องเรียกรัฐบาล นี้ว่า”รัฐบาลเหล่าเหย่”