รองอธิบดีดีเอสไองดโต้อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรณีตั้งข้อสังเกตหลักฐานดีเอไอ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพบนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อขอบคุณที่อำนวยความสะดวกในการทำงานของดีเอสไอ พร้อมทั้งดูจุดที่พบถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูก
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอต้องขอบคุณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ให้ความร่วมมือในทางคดีเป็นอย่างดี คดีนี้ดีเอสไอลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบมาเป็นปี โดยจากการประเมินสถานการณ์ทั่วไปและในทางการข่าว พนักงานสอบสวนมุ่งหาหลักฐานหลายพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ก่อนจะพบจุดต้องสงสัยที่ทิ้งถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูก ไม่ได้ให้ความสำคัญจุดนี้จุดแรก ส่วนที่อดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจานให้ความเห็นว่าถังน้ำมันที่พบมีลักษณะผุกร่อนน้อย พร้อมทั้งโต้แย้งหลักฐานของดีเอสไอนั้น ตนไม่มีความเห็น อยากจะพูดอะไรก็พูดไป
ด้านนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า จุดที่พบถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูกบริเวณใต้สะพานแขวนไม้เป็นพื้นที่ร่องน้ำหรือพื้นที่ปลายแหลม ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2559 จำได้ว่าช่วงที่แล้งที่สุดพื้นที่ดังกล่าวก็ยังมีน้ำ แต่ว่าเรือไม่สามารถวิ่งได้ โดยปกติอุทยานฯ มีการตั้งด่านตรวจนักท่องเที่ยวที่เข้าพักและบุคคลทั่วไปที่เข้าออกตลอดเวลาก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ บริเวณจุดเกิดเหตุก็ไม่มีกล้องวงจรปิด และยังไม่เคยพบมีการนำอัฐิมาลอยอังคาร ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยมีการลับลอบตัดไม้ แต่ปัจจุบันลดลงแล้ว ส่วนภาพกลุ่มคนเข้าลักลอบตัดไม้ตัดไม้ในแฟลชไดร์ฟของนายบิลลี่ ตนทราบจากข่าวแต่เห็นหน้ากลุ่มคนลักลอบตัดไม้ไม่ชัด จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ หรือไม่ แต่สั่งการให้สำนักงานตรวจสอบแล้ว