"พอละจี รักจงเจริญ" หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกระเหรี่ยง แห่งบ้านบางกลอย และอดีตสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หายตัวไปตั้งแต่ 17 เม.ย.2557 หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งขณะนั้น มีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร (ที่ปรึกษาหน่วยพญาเสือ-ปัจจุบัน)เป็นหัวหน้าอุทยานฯ ควบคุมตัวด้วยข้อหาครอบครองน้ำผึ้งป่าอย่างผิดกฎหมาย
จากวันนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครเห็นบิลลี่อีกเลย ขณะที่เจ้าหน้าทีอุทยานฯ ยืนยันว่าได้ปล่อยตัวเขาตั้งแต่วันนั้น และไม่ได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เท่ากับเขาเสียชีวิตแล้ว โดยชิ้นส่วนกระดูกส่วนกะโหลกที่พบ บ่งชี้ถูกเผาไหม้ในอุณหภูมิระดับ 200-300 องศาเซนเซียส สะท้อนรูปแบบและวิธีการที่สุดแสนทรมานและโหดเหี้ยม
กระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2562 ใกล้จะครบ 5 ปีที่เขาหายสาบสูญไป ดีเอสไอและหลายหน่วยงานที่บูรณาการทำคดีนี้ด้วยกัน จะแถลงข่าวยืนยัน พบกระดูก 2 ชิ้นพร้อมของกลางต้องสงสัยหลายอย่างในน้ำใต้สะพานแขวนเหนืออ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน และตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว พบสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอตรงกับผู้เป็นแม่ของบิลลี่
บิลลี่เป็นทายาทของลูกชายปู่คออี้ หรือโคอิ มีมิ ผู้นำทางจิตวิญญาณของขาวกระเหรี่ยงแก่งกระจาน ที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานกดดันใช้สาระพัดวิธีเพื่อให้อพยพจากถิ่นกำเนิด บ้านบางกลอยบน หรือบ้านใจแผ่นดินที่อยู่อาศัยมาก่อนจะมีประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมถึงเผาบ้าน ทรัพย์สิน และยุ้งฉาง รวมทั้งอุ้มปู่คออี้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ให้ลงมาอยูที่บ้านโป่งลึก-บางกลอยล่าง กระทั่งนำไปสู่การรวมตัวยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชของชาวกระเหรี่ยง กระทั่งชนะคดี ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนคนละ 10,000 บาทภายใน 30 วัน โดยบิลลี่เป็นหนึ่งในพยานของคดีนี้
สำหรับปู่คออี้เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2561 ขณะอายุ 107 ปี หลังเพิ่งได้รับสัญชาติไทย ได้ทำบัตรประชาชนครั้งแรกได้ไม่นาน หลังจากกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือกสม.โดยเตือนใจ ดีเทศน์ ประสานวิ่งเต้นช่วยเหลือมานานหลายสิบปี
ส่วนกรณีบิลลี่ นับจากแน่ชัดว่าถูกฆาตกรรมโหดไร้ความปรานีแล้ว ทางการหรือหน่วยงานไหน จะสามารถเดินหน้าหาตัวคนกระทำผิดได้หรือไม่ เพราะแม้แต่หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต ผอ.นิติวิทยาศาสตร์ ยังยอมรับว่า คดีอุ้มฆ่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐ จะเป็นคดีที่ทำได้ยากที่สุด
คุยเคาะเจาะกระแสร้อน โดย ประจักษ์ มะวงษา