เร่งระบายน้ำ “เขื่อนเจ้าพระยา” พร้อมรับมวลน้ำภาคเหนือ

2019-09-03 12:20:13

เร่งระบายน้ำ “เขื่อนเจ้าพระยา”  พร้อมรับมวลน้ำภาคเหนือ

Advertisement

สำนักงานชลประทานที่ 12 เพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้นจากเดิม เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำจากภาคเหนือ แจงไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่ง

วันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ มาลาศรี ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 ออกหนังสือแจ้งสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ถึง ผวจ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุระดับ 3(โซนร้อน) “โพดุล” บริเวณทะเลจีนใต้ ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน จากนั้นได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาวและเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย แล้วอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชั่น) ส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในทุกภาคของประเทศไทย ทำให้ระดับและปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน ณ วันที่ 3 ก.ย.2562 เวลา 08.00 น. ที่สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,051 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ระดับ +16.39 ม.รทก. ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ดังนั้นเพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์น้ำดังกล่าว ในช่วงระยะนี้สำนักงานชลประทานที่ 12 จึงได้ทำการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่จะควบคุมอยู่ในเกณฑ์ 500-600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยการบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งปริมาณน้ำไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงขอแจ้งเตือนบริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร และประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำต่อไป




ทั้งนี้ นายสุรชาติ มาลาศรี ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อิทธิพลของพายุโพดุล ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังมีน้ำปริมาณน้อยมาก หากเทียบกับทางภาคอีสาน แต่ที่มากคือน้ำที่ไหลลงมาจากภาคเหนือตอนล่าง ที่จ.พิษณุโลก จ.สุโขทัย และพิจิตร จะมาปริมาณน้ำที่ไหลลงมามาก ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวจะไหลผ่าน ที่สถานีวัดน้ำC2. อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.2562 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยที่สถานีวัดน้ำ C2. ขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านอยู่ที่ 839 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำที่ไหลมาถึงที่บริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา จะถูกระบายส่งเข้าคลองชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและขวา ประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตร และอีก400 จะระบายลงสู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ให้กับพื้นที่ทางการเกษตรที่ยังไม่ได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต อีกประมาณ 1ล้าน 5ไร่ โดยสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้นในส่วนของแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นผลดี ซึ่งทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานมีสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ จ.อุทัยธานี ก็จะใช้โอกาสตรงนี้สูบน้ำไปกักเก็บในแก้มลิงเพื่อไว้สำรองในโอกาสหน้า