ตะลึง! หนี้ครัวเรือนพุ่ง 13 ล้านล้าน สูงสุดในรอบ 2 ปี

2019-09-02 17:55:06

ตะลึง! หนี้ครัวเรือนพุ่ง 13 ล้านล้าน  สูงสุดในรอบ 2 ปี

Advertisement

สถิติหนี้ครัวเรือนไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 2 ปี

สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผยว่า ภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 2562 พบหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสิ้นไตรมาส 1 หนี้ครัวเรือนเท่ากับ 13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 6.3 และคิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพีเท่ากับร้อยละ 78.7 สูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส หรือกว่า 2 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2560 โดยหนี้ครัวเรือนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 เป็นต้นมา 

สำหรับไตรมาส 2 ปี 2562 แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะภาพรวมสินเชื่อธนาคารพาณิชย์เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นระดับสูงร้อยละ 9.2 โดยยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 11.3 สูงสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งเเต่ไตรมาส 4 ปี 2558 เป็นต้นมา 



ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและรถยนต์ขยายตัวร้อยละ 7.8 และร้อยละ 10.2 ชะลอลงจากร้อยละ 9.1 และร้อยละ 11.4 จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ในภาพรวมสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น โดยยอดคงค้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพื่อการอุปโภคบริโภคในไตรมาส 2 ปี 2562 มีมูลค่า 127,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และสินเชื่อบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระเกิน 3 เดือนขึ้นไปที่กลับมาขยายตัวอีกครั้ง



ส่วนแนวโน้มหนี้สินครัวเรือนในช่วงครึ่งหลังปี 2562 คาดว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มลดลง และความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ในการปล่อยกู้แต่ด้านคุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มที่จะด้อยคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากในช่วงก่อนมีมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ธนาคารพาณิชย์มีการแข่งขันปล่อยสินเชื่อในลักษณะที่ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การอนุมัติ ประกอบกับมีการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในวงเงินสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง ทำให้ผู้กู้ได้เงินสดกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น

อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐได้ดำเนินมาตรการในการกำกับดูแลการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของหนี้สินครัวเรือน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้น้อยไปพร้อมกัน