“ธนาธร” ชี้การต่อสู้อาจใช้เวลานานนับ 10 ปี

2019-09-01 00:10:15

“ธนาธร” ชี้การต่อสู้อาจใช้เวลานานนับ 10 ปี

Advertisement

“ธนาธร-ปิยบุตร” ติวเข้มคณะทำงานจังหวัดทั่วประเทศ ชี้แจงการทำงานทั้งในและนอกสภาฯ ของพรรคอนาคตใหม่ ระบุการต่อสู้อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี ขอให้ทุกคนยึดมั่นในอุดมการณ์ อย่างคงมั่นตลอดไป

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ทำการพรรคอนาคตคตใหม่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และนายศรายุทธ์ ใจหลัก ผู้อำนวยการพรรค ร่วมประชุมกับหัวหน้าคณะทำงานจังหวัดทั่วประเทศของพรรคอนาคตใหม่ ถึงทิศทางภาพรวมของพรรคอนาคตใหม่ทั้งในสภาผู้แทนราษฏร และนอกสภา โดยในช่วงแรกของกิจกรรมนายธนาธรได้อธิบายถึงจุดประสงค์การประชุมในวันนี้ บทบาทของคณะทำงานจังหวัด และทิศทางของพรรคอนาคตใหม่ พร้อมอธิบายโครงสร้างพรรคหลังจากการเลือกตั้ง และรายงานรายได้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของพรรคให้ผู้ร่วมอบรมได้รับทราบด้วย

นายธนาธร กล่าวว่า ทีมทำงานจังหวัดเป็นหน่วยที่สำคัญของพรรค พรรคจะเข้มแข็งหรือไม่ อยู่ที่ประประสานงานระหว่างทีมงานจังหวัดและส่วนกลางของพรรค ส่วนงานในสภาฯในฐานะฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลกำลังจะเริ่มต้น ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนี้ มีบทบาทในคณะกรรมาธิการด้านต่างๆ ไม่ว่าเกี่ยวกับความมั่นคง ราคาพืชผลการเกษตร สิทธิแรงงาน เด็กเยาวชนคนชรา หรือกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น และใน 1 กรรมาธิการจะมีสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่นั่งอยู่ 2 ถึง 3 คน เราจะมีช่องทางตรวจสอบ เรียกหาข้อมูล สอบถามความคืบหน้า ในทุกๆด้านหลังจากนี้ นี่คือกลไกในด้านรัฐสภา อีกด้านหนึ่งคือการออกกฎหมาย ซึ่งเป็นงานที่สำคัญในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากมองย้อนกลับไป สภาฯในประเทศไทยแทบจะไม่เคยทำหน้าที่ออกกฎหมายเลย ส่วนใหญ่เห็นแต่การตั้งกระทู้ถามถึงรัฐมนตรีนั้นๆ แต่หน้าที่จริงๆคือ ออกกฎหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเดินก้าวไปข้างหน้าได้ ออกกฎหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเท่าทันโลก ออกกฎหมายที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และออกกฎหมายที่จะกำจัดอุปสรรคที่จะพัฒนาประเทศ และนี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่อยากจะนำมิติใหม่ทางการเมืองเข้าสู่สภา และผมเชื่อว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานและยกเลิกเกณฑ์ทหาร สามารถทำร่วมกับฝ่ายรัฐบาลได้ 

“ พรรคอนาคตใหม่ต้องคงอยู่คงทนกว่าผม หรือปิยบุตร การต่อสู้ใช้ระยะเวลานาน อาจใช้เวลาเป็น 10 ปี ขอให้สมาชิกทุกท่าน คณะทำงานทุกคน ส.ส.ทุกคนยึดมั่นในอุดมการณ์ อย่างคงมั่นตลอดไป” นายธนาธร กล่าว


ด้าน นายปิยบุตร กล่าวถึงงานในสภาผู้แทนราษฏรว่า พรรคอนาคตใหม่ได้มีการอภิปราย การปรึกษาหารือ การตั้งกระทู้ถาม การเสนอญัตติ การเสนอร่างกรรมาธิการและการร่างพระราชบัญญัติ ส่วนของการอภิปรายอย่างเช่นเรื่องข้อบังคับการประชุมสภา ซึ่งตอนนี้ได้ประกาศใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านญัตติขอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ตอนนี้เราสามารถตั้งได้เพียง 2 คณะ คือเรื่องของราคาพืชผลการเกษตร และ การต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน ซึ่งเรื่องของกรรมาธิการราคาพืชผลการเกษตรนั้นมีเป็นปกติอยู่แล้ว หากมองย้อนกลับไปทุกยุคของรัฐบาล การตั้งกรรมาธิการศึกษาเรื่องพืชผลการเกษตร จะมีเป็นลำดับแรกๆ เพื่อที่จะไปบอกกับชาวบ้านว่าจะมาแก้ปัญหา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีพรรคไหนพูดถึงการจัดการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งตนคิดว่าหากไม่แก้เชิงโครงสร้างจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน สำหรับกรรมาธิการศึกษาพืชผลทางการเกษตรนั้น พรรคอนาคตใหม่ได้ส่งคุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแม่ทัพในกรรมาธิการนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตร กล่างอธิบายถึงการทำงานต่างๆ ในสภา อาทิ การปรึกษาหารือ การยื่นญัตติ และการทำงานของคณะกรรมาธิการต่างๆ รวมถึงงดารเตรียมเสนอร่างกฎหมาย โดย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ในสองสมัยประชุมนี้ด้วย

"เรากำลังทำมติมหาชนให้ปรากฎอย่างเป็นทางการในสภาผู้แทนราษฎร เราจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลมีเสียงที่ดังมากขึ้นและดังมาถึงภายในสภาฯ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจทีแท้จริง เราจึงต้องทำให้ประชาชนที่อยู่ใกล้และอยู่ไกลมีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ" นายปิยบุตร กล่าว

ด้านนายณัฏฐชัย วัฒนาเอี่ยมสกุล รักษาการหัวหน้าคณะทำงานจ.เลย กล่าวว่า ทางทีมงานจังหวัดเลยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างคณะทำงาน กรรมการ และทีมอาสา ซึ่งการทำงานของพรรคอนาคตใหม่จังหวัดเลย ใช้วิธีการพูดคุยกัน ถอดหัวโขนทิ้งไว้ข้างหลัง และนำความคิดของสมาชิกแต่ละคนโยนใส่ตระกร้า เพื่อระดมความคิดหาจุดลงตัวที่ดีที่สุดในการทำโครงการหรือการทำภาระกิจต่างๆให้ประสบความสำเร็จ อีกเรื่องหนึ่งคือการแบ่งบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน โดยการทำเป็นเอกสารประกาศว่าสมาชิกคนไหนมีขอบเขตการทำงานอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าทีมคณะทำงานอนาคตใหม่จังหวัดเลยจะเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมด เรายังต้องขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าอยู่เสมอ เป็นการทำงานผสมผสานกันระหว่าง gen X กับ gen Y 

ด้านนายอดิสัน ประพฤติสุจริต เลขาธิการหัวหน้าคณะทำงานจังหวัดสงขลา กล่าวว่า อุปสรรคในการทำงานของทีมจังหวัดสงขลา คือเรื่องของการประสานงานกับส่วนกลาง ซึ่งหากจะนำประเด็นสื่อสารบางอย่างไป อย่างเช่นปัญหายางพารา การประสานผ่านผู้ประสานงานของส่วนกลางจะทำให้ล่าช้า แต่ก็เข้าใจได้ประพรรคอนาคตใหม่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ แต่สิ่งที่เป็นเรื่องที่ดีคือ ทางส่วนกลางได้มี สส. รับเรื่องร้องเรียนโดยเฉพาะ และมีแบบฟอร์มซึ่งสามารถติดตามสถานะของเรื่องนั้นๆได้ตลอด นับว่าเป็นก้าวแรกที่ทำให้ระบบการสื่อสาร จากชาวบ้านผู้ประสบปัญหาต่างๆ ส่งเรื่องไปถึงพรรคอนาคตใหม่และนำเรื่องไปสู่ในสภาฯ ในที่สุด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายพรรคอนาคตใหม่ได้เปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทำงานจังหวัดต่างๆได้นำเสนอแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานของแต่ละจังหวัด และกิจกรรมสุดท้าย พรรคอนาคตใหม่ได้จัดกิจกรรม workshop สำหรับแผนปฎิบัติงานแคมเปญรัฐธรรมนูญในระดับภาคอีกด้วย