ยกฟ้อง "ทักษิณ"คดีทุจริตแบงก์กรุงไทย

2019-08-30 16:25:07

ยกฟ้อง "ทักษิณ"คดีทุจริตแบงก์กรุงไทย

Advertisement

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้อง “ทักษิณ” คดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยกับกลุ่มกฤษฎามหานคร ระบุไม่มีน้ำหนักเป็นผู้สั่งการ

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีนายทักษิณ ชินวัตร ร่วมทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มกฤษฎามหานคร ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1 นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย และบริษัทในเครือของ บริษัทกฤษดามหานครจำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 27 ราย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2555 กรณีระหว่างวันที่ 8 ก.ย.2546 - 30 เม.ย.2547 ได้อนุมัติสินเชื่อ เป็นเหตุให้ธนาคารกรุงไทย ได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 10,054,467,480 บาท แต่ระหว่างพิจารณาคดีนายทักษิณได้หลบหนีคดี ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของนายทักษิณออกจากสารบบไว้ชั่วคราว ต่อมาในปี 2560 ได้มีการออกกฎหมายใหม่ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ให้อำนาจศาลที่จะพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยได้ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด จึงยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่ิอเดือน พ.ย.2560 ขอให้นำคดีที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเฉพาะในส่วนของ นายทักษิณ จำเลยที่ 1 ขึ้นมาพิจารณาใหม่

สำหรับประเด็นที่ว่า นายทักษิณ จำเลยที่ 1 กระทำผิดหรือไม่ องค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่าพยานของอัยการโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย เบิกความเกี่ยวกับซูเปอร์บอส หรือ บิ๊กบอส เห็นชอบและสั่งการให้อนุมัติสินเชื่อให้กับกลุ่มกฤษฎามหาคร ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำเลยที่ 1 หรือไม่ เพราะพยานได้รับฟังมาจากจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ พยานปากนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักว่านายทักษิณสั่งการให้จำเลยที่ 2-4 ซึ่งเป็นผู้บริหารธนาคารกรุงไทยที่มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กลุ่มกฤษฎามหานคร จำเลยที่ 19 จึงพิพากษายกฟ้อง