ครม.ไฟเขียวประกันรายได้ผู้ปลูก “ข้าว-ปาล์มน้ำมัน”

2019-08-27 19:05:43

ครม.ไฟเขียวประกันรายได้ผู้ปลูก “ข้าว-ปาล์มน้ำมัน”

Advertisement

เกษตรกรผู้ปลูก“ข้าว-ปาล์มน้ำมัน”เฮ “จุรินทร์” นำเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบประกันรายได้แล้ว

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.เกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มกิโลกรัมละ 4 บาท ที่น้ำมัน 18% ครัวเรือนละ25 ไร่ ใช้วงเงิน 13,000 ล้านบาท แต่โดยข้อเท็จจริงนั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาปาล์มในประเทศด้วย โดยถ้าสถานการณ์ราคาปาล์มในประเทศสูงขึ้นหมายความว่าเงินชดเชยส่วนต่างจะลดลงหรือเป็นภาระกับงบประมาณน้อยลง ซึ่งปรากฏว่าก่อนหน้าที่ ครม.จะมีมติวันนี้นั้น มาตรการอื่นๆของกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลที่ดำเนินควบคู่มานั้นไปช่วยกระตุ้นให้ราคาปาล์มสูงขึ้นเป็นลำดับจากเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า ปัจจุบันนี้เป็น 3.20-3.30 บาทแล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องมาตรการประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม จะทำควบคู่ไปกับมาตรการคู่ขนาน คือ 1.เพิ่งประกาศใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 10 เป็นภาคบังคับโดยให้บี 7 กับบี 20 เป็นทางเลือกเท่านั้น เพื่อที่จะให้การใช้สัดส่วนน้ำมันปาล์มผสมกับดีเซลในสัดส่วนที่มากขึ้นจะช่วยให้ราคาปาล์มเข้าสู่ดุลยภาพราคาดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพวันนี้ได้หารือกับ รมว.พลังงานในที่ประชุม ครม.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2.ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเร่งดำเนินการนำน้ำมันปาล์มไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งมีวงตัวเลขอยู่ 2.3 แสนตัน 3.จะเร่งรัดจัดการการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มที่ผิดกฎหมายที่จะทำให้ผลปาล์มในประเทศราคาตก 4.เร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดอินเดีย 5.จัดให้มีมิเตอร์วัดสต็อกทำน้ำมันปาล์มในแต่ละพื้นที่หลายร้อยถังทั่วประเทศ 6.ให้มีการออก พ.ร.บ.น้ำมันปาล์มไปตามลำดับเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

ส่วนเรื่องประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ ครม.ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอประกันกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว คือ ประกันรายได้ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10000 บาท เปลือกเหนียว 12,000 บาท ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท เข้าหอมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาท ข้าวหอมประทุมที่ 11,000 บาท ในจำนวนตามที่ได้เสนอไป โดยใช้วงเงินไม่เกิน 21,000 ล้านบาทฤดูผลิตนาปี ที่ผลผลิตกำลังจะทยอยเริ่มออกสู่ตลาด ตอนนี้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ ที่นำโดยอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ทั้งเรื่องปาล์มและข้าวเพื่อประกอบด้วยทั้ง 3 ฝ่ายเร่งรีบประชุมดำเนินการคิดค่าส่วนต่างโดยเอาราคาประกันเป็นตัวตั้งและเอาราคาตลาดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่จะตกลงกันเป็นตัวลบแล้วจะได้ส่วนต่างมาเป็นเงินชดเชยที่จะส่งเพื่อนตรงเข้ากับธนาคารของเกษตรกร คือ บัญชีเกษตรกรที่ ธกส.ต่อไป ซึ่งเกษตรกรได้มาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร อย่างถูกต้อง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับคำถามเรื่องเงินส่วนต่างงวดแรก ยอมรับว่าที่ตั้งความเห็นเบื้องต้นไว้ตอนประชุม 3 ฝ่ายคือเรื่องปาล์มนั้นเกษตรกรน่าจะเริ่มได้งวดแรกในวันที่ 1 ต.ค.2562 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการที่จะไปคำนวณตัวเลขในแต่ละช่วง เช่นเดียวกันกับกรณีของประกันรายได้ข้าวก็จะเร่งรัดให้ทันฤดูกาลข้าวนาปีนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับวิธีประมาณการงบประมาณจะคำนวณจากข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2561 ของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้แก่จำนวนเกษตรกร 296,662 ครัวเรือน และพื้นที่เพาะปลูก 4.077 ล้านไร่ สำหรับข้อมูลการขึ้นทะเบียนอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงข้อมูล ส่วนเรื่องยางพารานั้นอยู่ในขั้นตอนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เบื้องต้นได้มีการประชุมหารือกันระหว่าง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องขณะนี้อยู่ระหว่างการคำนวณพื้นที่เพาะปลูกและงบประมาณซึ่งคาดว่าจะตามมาเพื่อเข้า ครม.ในเร็ววัน