พักนี้สมาธิไม่ค่อยจะดี ความคิดไม่ค่อยเป็นระบบ “หมายเหตุฯ” ฉบับนี้เลยขอแบบสบายๆ ใช้ “แก้วสรรโมเดล” คือเขียนหนังสือด้วยรูปแบบถามเองตอบเอง...คงไม่ว่ากัน..
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้อง 4 ผู้ต้องหาคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คุณรู้สึกช็อกไหม
-ก็นิดหน่อยครับ ตอนแรกคาดว่าอย่างมากสุดอาจจะยกบ้าง รอลงอาญาบ้าง แต่นี่ยกหมดทั้ง 4 ท่าน เราก็เคารพการตัดสินของศาล รอดูว่า ป.ป.ช.เขาจะอุทธรณ์หรือเปล่า ตรงนี้วัดใจกัน พี่น้องประชาชนพันธมิตรฯ เขารอดูอยู่
ทราบว่าคุณไปเป็นพยานให้ฝ่าย ป.ป.ช.ด้วย คิดว่าทำไมคำตัดสินออกมาถึง 8 ต่อ 1 ยกฟ้องจำเลยที่ 1-3 และ 6 ต่อ 3 ยกฟ้องจำเลยคนที่ 4
-ครับ ไปเป็นพยานให้ ป.ป.ช.เขาขอมาในฐานะที่เราเข้าร่วมเหตุการณ์คนอื่นๆ เท่าที่ผมทราบก็ถูกเชิญไป เช่น คุณคำนูณ สิทธิสมาน อดีต ส.ว. คุณสาวิตต์ แก้วหวาน อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ผมก็ให้ปากคำต่อศาลไปตามข้อเท็จจริง ยืนยันที่เราเห็นพี่น้องพันธมิตรฯ เขาอหิงสา สันติ เขามาชุมนุมกันตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 6 ต.ค. แต่พอรุ่งสางตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเปิดทางจะเข้ารัฐสภาให้ได้ แขนขาดขาขาดตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ไม่มีพี่น้องคนไหนบุกเข้ารัฐสภา อย่างเก่งก็โกรธเจ้าหน้าที่ตำรวจปาขวดน้ำใส่ตำรวจบ้างอะไรประมาณนี้ แล้ววันนั้นตำรวจยิงแก๊สน้ำตาซึ่งทราบต่อมาว่าเป็นแก๊สน้ำตาหมดอายุ ยิงถึง 4 รอบ หลายจุด วันเดียวตายถึง 2 คน บาดเจ็บ 400 กว่าคน มันหฤโหดมาก อย่างน้อยที่สุดศาลน่าที่จะบอกว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ถ้าไปดูรายงานของกรรมการสิทธิมนุษยชน รายงานของกรรมาธิการอย่างน้อย 2 ชุดของวุฒิสภา หรือแม้แต่คำตัดสินของศาลปกครองกลางก็ชัดเจนว่ามันเกินไป
เรื่องของคดีนี่ ต้องไม่ลืมว่าคดีนี้อัยการไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ต้องมาฟ้องเอง แล้วใช้ทนายส่วนหนึ่งจากสภาทนายความ ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การนำเสนอข้อมูล การซักไซ้ไล่เรียงในระบบไต่สวนของฝ่ายโจทก์ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร นอกนั้นอาจจะมีเหตุผลอื่นหรือไม่อย่างไรผมก็ไม่อาจจะทราบได้ ซึ่งเมื่อคำตัดสินออกมาแล้วเราก็เคารพ แต่ก็ขอใช้สิทธิแสดงความเห็นบ้างตามความเหมาะควร
ผลจากคดีนี้บางฝ่ายบอกว่าพันธมิตรฯ อาจรวมตัว ฟื้นคืนขบวนการขึ้นมาอีกครั้ง
ฟื้นคืนขบวนการคงไม่หรอกครับ เท่าที่ตามข่าวเขาอาจมีการรวมตัวกันขับเคลื่อนเรื่องคดีความ เช่น ถ้า ป.ป.ช.อุทธรณ์ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลฎีกาตัดสินพันธมิตรฯ จะมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง ถ้า ป.ป.ช.ไม่อุทธรณ์จะคิดอ่านกันประการใด จะไปฟ้องอาญากับ 4 ท่านหรือเปล่า เพราะถ้าทุกอย่างมันจบลงแค่นี้พันธมิตรฯ เขาคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ร้าย ทั้งๆ ที่พวกเขาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ต่อสู้กับความฉ้อฉล
จริงๆ พันธมิตรฯ ได้ประกาศสลายตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่กลางปี 2557 ผมรู้จักระดับหัวแถวหลายคน บางคนก็โล่งอกโล่งใจที่จะได้เดินหน้าสู้คดีอย่างเดียว บางคนก็ประกาศหันหลัง.วางมือ บอกว่าพอแล้วเนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่งแถมมีกระดูกแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อน สู้ไปสู้มาก็เป็นเสมือนเครื่องมือให้นักการเมืองและขั้วอำนาจ บางคนสู้มาตั้งแต่ยุคพันธมิตรฯ ปลายปี 2548 มาจนถึงยุค กปปส. 2557 พอจะเห็นถึงมิติการต่อสู้ว่าสุดท้ายใครได้ประโยชน์ แต่หลายคนก็บอกว่าจะต้องต่อสู้ต่อไปตามสภาพการณ์นั้นๆ..ตอนนี้ก็ให้ คสช.ให้ลุงตู่เป็นพระเอกเปลี่ยนผ่านบ้านเมือง แต่ถ้าเปลี่ยนผ่านไม่ดีก็ค่อยว่ากันอีกที
เท่าที่ฟังๆ มา กลุ่มคนที่เคยต่อสู้ที่ว่ามาน่ะเขาคิดยังไงกับลุงตู่และ คสช.สำหรับท่านนายกฯ ลุงตู่นี่ส่วนตัวแทบทุกคนโอเคนะ แม้จะไม่เต็มร้อยแบบปี 57 ปี 58 แต่โจทก์ใหญ่เท่าที่ผมสัมผัสได้นี่ บรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ มองว่า ทำไม คสช. มีแต่คนหน้าเดิมๆ กลุ่มเดิมๆ คนมีสีคนเดิมๆ นักวิชาการวงแคบๆ ที่สนุกสนานอยู่กับอำนาจ คนอื่นๆ ที่เขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คนอื่นๆ ที่เขามีความรู้ความสามารถไม่เคยถูกชายตาแล อันนี้ก็อาจจะเป็นกับระเบิดในอนาคตได้ ถ้าลุงตู่ลอยตัวปล่อยให้คนอื่นจัดวางแทบทั้งหมด..เพราะจากนี้ไป สู่อนาคต ทั้งกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ, กรรมการปฏิรูป 10 กว่าชุด และในอนาคต ส.ว.อีก 200 ว่าชีวิต..มันคือภาคปฏิบัติจริงภายใต้รัฐธรรมนูญและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
คิดยังไงกับคดีจำนำข้าวของคุณยิ่งลักษณ์ คดีขายข้าวจีทูจีของคุณบุญทรงกับพวก..จะยกฟ้องแบบคดีสลายการชุมนุมฯ ไหม
ไม่อยากก้าวล่วงศาลนะ แต่ถ้าเป็นความเชื่อส่วนตัว ต้องบอกว่า..ไม่เหมือน ส่วนไม่เหมือนอย่างไรก็อย่าให้พูดตอนนี้เลยครับ
คำแถลงปิดคดี(ด้วยวาจา) 19 หน้าของคุณยิ่งลักษณ์ทำการบ้านมาดีนะ
ทีมงานและทนายเตรียมให้ จัดให้ก็ต้องเป็นระบบหน่อย แต่ผมอ่านตอนท้ายๆ มันคล้ายๆ กับตอนที่คุณยิ่งลักษณ์ (อ่าน) แถลงการณ์ปิดคดีเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2558 เลย วันรุ่งขึ้น สนช.ลงมติถอดถอนเธอด้วยคะแนน 190 ต่อ 18
ตกลง ดูไปดูมาเดือน ส.ค.อุณหภูมิการเมืองก็ไม่ถึงขั้นร้อนจนปรอทแตกอย่างที่วิตกกัน...
ก็คงระดับปรอทเดือด...แต่ไม่ว่าเดือดไม่ว่าแตก คสช.ยังเอาอยู่ พรรคเพื่อไทยและ นปช.เองส่วนลึกก็รู้ดีว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ที่ทำให้โรดแม็ปการเลือกตั้งมันย้วยยืดออกไปจากปลายปี 2561 ไม่เป็นผลดีด้วยประการทั้งปวง เพราะวันที่พรรคเพื่อไทยรอแล้วรอเล่าได้แต่เฝ้ารอก็คือวันเลือกตั้ง...ซึ่งเมื่อปี 2554 พรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่งเกินครึ่ง (250) ได้มา 265 เก้าอี้..วันนี้ตัวเลขขั้นต่ำของพวกเขาตามที่มีข่าวลือลอยมาตามลมคือ 230 เสียง ซึ่งก็เพียงพอที่จะสร้างความยุ่งยากปวดหัวให้กับเสนาธิการน้อยใหญ่ของลุงตู่ไม่น้อยทีเดียว..!!
ขอแถมสั้นๆ นิดหนึ่ง โกตี๋ วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ ถูกอุ้มจริงรึเปล่า เสียชีวิตรึยัง?
ผมเชื่อว่าถูกอุ้มจริง แต่ไม่ทราบว่าจบชีวิตหรือยัง แต่คงจะสาบสูญ..!!