ฝ่ายความมั่นคงรวบอีก 2 ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวบึ้มป่วนกรุงเทพฯ ขณะที่ทหารเสริมกำลังคุมเข้มเข้า–ออก พรมแดนสุไหงโก-ลก
รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุคนร้ายลอบระเบิดป่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงคาบเกี่ยวของวันที่ 1-2 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว 2 ผู้ต้องสงสัยไปสอบเครียดขยายผล ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งประกอบด้วยนายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ชาวอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส นั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ได้รับมอบหมายในการคลี่คลายคดีดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุพื้นที่กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 2 คน ซึ่งกำลังขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ 1.นายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/3 ถนนดูกู ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้นั่งซ้อนท้าย และ 2.นายมูฮำหมัดฮาซัน มะ อายุ 22 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ขี่รถ จยย. และจากการตรวจสอบประวัติในเบื้องต้น พบว่าทั้ง 2 คน มีหมาย พรก.ฉุกเฉิน และตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลอบวางระเบิดป่วนพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจึงได้ทำการตรวจยึด รถ จยย.และได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 2 ไปสอบขยายผล พร้อมทั้งได้นำตัวเข้าตรวจค้นบ้านพักของบุคคลทั้ง 2 ในพื้นที่ อ.บาเจาะ และ อ.สุไหงปาดี แต่ไม่ได้รับรายงานว่า พบวัตถุพยานหรือเอกสารใดๆ ที่เชื่อมโยงและมีส่วนรู้เห็นพัวพันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่อย่างไร โดยเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวบุคคลทั้ง 2 ไปสอบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.ตร.ส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ชาวอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส
และจากผลพวงของเจ้าหน้าที่ที่สามารถจับกุมตัวนายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ และ นายมูฮำหมัดฮาซัน มะ ซึ่งมีหมาย พรก.ฉุกเฉิน และตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลอบวางระเบิดพื้นที่กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ตากใบ แว้ง ที่มีพรมแดนติดต่อกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจสอบยานพาหนะและบุคคล ที่สัญจรไปมาอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มคนร้ายที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะแฝงตัวหลบหนีความผิดไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้แล้วที่บริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก ตากใบ และแว้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้มีมาตรการตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะทุกชนิด ที่ผ่านออกเข้าระหว่างประเทศ อย่างเข้มงวด แถมยังให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางข้ามแนวพรมแดน คอยสังเกตการณ์และตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวผ่านเข้าออกในครั้งนี้ด้วย
ส่วนเจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่เสริมกำลังตรวจเข้มคนเข้า – ออก นอกพรมแดนที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อสกัดการหลบหนีของกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีเอี่ยวร่วมกับกลุ่มต้องสงสัยลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ กทม.เมื่อหลายวันก่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ร่วมก๊วนลอบวางระเบิด เพื่อป้องกันการหลบหนีผ่านพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งด่านตรวจคนเข้าเมือง และช่องทางผิดกฎหมาย โดยตรวจสอบบุคคลผ่านด่านอย่างละเอียดทั้งเอกสารและวัตถุต้องสงสัยที่อาจจะขนย้ายออกนอกพื้นที่โดยมีการเฝ้าและตรวจสอบอย่างละเอียด