น้ำดื่มสิงห์ทำฉลากติดขวดตามหาเด็กหาย

2019-08-05 23:40:36

น้ำดื่มสิงห์ทำฉลากติดขวดตามหาเด็กหาย

Advertisement

"น้ำดื่มสิงห์" ร่วมกับมูลนิกระจกเงาจัดโครงการ "คืนดวงใจให้แม่" ทำฉลากพิเศษรูปเด็กหายบนขวดน้ำดื่มกว่า 20 ล้านขวดกระจายทั่วประเทศ ตามหาเด็กหายกลับคืนสู่อ้อมกอดครอบครัว 


เมื่อวันที่ 5 ส.ค.นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด พร้อมด้วยนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข ประธานมูลนิธิกระจกเงา ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "คืนดวงใจให้แม่ return Heart to home" เนื่องในวันแม่ปีนี้ โดยจัดพิมพ์ฉลากพิเศษรูปเด็กหายบนขวดน้ำดื่มสิงห์ กว่า 20 ล้านขวด เพื่อช่วยตามหาเด็กหายกลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่และครอบครัว และให้คนในสังคมตระหนักถึงปัญหาเด็กหายโดยเด็ก 5 คน ที่มูลนิธิกระจกเงาเลือกนำมาพิมพ์ฉลากพิเศษติดขวดน้ำดื่มสิงห์ประกอบด้วย



1. ด.ช.ชัยภาส ด่านเกื้อกูล หรือ น้องเท็น อายุขณะหายไป 11 ปี ปัจจุบัน 24 ปีหายไปจากบ้านที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีตำหนิไฝที่ข้อมือซ้าย และแผลเป็นที่หางคิ้วข้างขวา





2. ด.ช.นฤดล เยื้อนหนูวงศ์ หรือน้องโอ๊ อายุขณะหายไป 8 ปีปัจจุบัน 25 ปีหายไปจากบ้านที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาครมีตำหนิรอยแผลเป็นที่คิ้วขวา



3. ด.ญ.จีรภัทร ทองชุม หรือน้องจีจี้ อายุขณะหายไป 9 ปี ปัจจุบันอายุ 17 ปี หายไปจากบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี





4. ด.ญ.เบญรัตน์ วงศ์ประจันต์ หรือน้องพลอย ขณะหายไปอายุ 4 ปี ปัจจุบันอายุ 17 ปี หายไปบริเวณตลาดนัดคลองหลวง จ.ปทุมธานี มีตำหนิแผลเป็นที่ใต้รักแร้ข้างซ้าย



5.ด.ช.เดชาวัต ยาต่อ หรือน้องเจต ขณะหายไปอายุ 12 ปี ปัจจุบันอายุ 17 ปี หายไปจากบ้านที่ ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์



นายภูริต กล่าวว่า ได้จัดพิมพ์ฉลากเด็กหาย บนขวดน้ำดื่มขนาด 750 มิลลิลิตร และ 600 มิลลิลิตร เนื่องจากเป็นขนาดที่ผู้บริโภคนิยมดื่มเป็นจำนวนมาก ส่วนช่องทางจำหน่ายจะครอบคลุมร้านค้าทั่วไป ห้างค้าปลีก รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ที่กระจายอยู่กว่า 11,000 สาขาทั่วประเทศ ตลอดทั้งเดือน ส.ค. เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตามหาเด็กทั้ง 5 คน


ขณะที่นายเอกลักษณ์ กล่าวว่าโครงการคืนดวงใจให้แม่ return Heart to home โดยน้ำดื่มสิงห์เป็นโครงการที่ดี และเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือทางสังคมที่จะช่วยพาเด็กหายกลับคืนสู่ครอบครัว ซึ่งเด็กที่สูญหายทั้ง 5 คน ที่ถูกเลือกมา ถือเป็นกรณีที่ยากที่สุดของมูลนิธิกระจกเงาใช้เวลาการติดตามหาตัวนานตั้งแต่ 6 ปีถึง 17 ปี ทั้งที่มีสื่อหลากหลายประเภทช่วยในการติดตาม แต่ยังไม่พบตัว ดังนั้นการใช้สื่อที่สามารถเข้าถึงคนหมู่มากและใกล้ชิดกับผู้บริโภคโดยตรง จึงเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการเพิ่มโอกาสการตามหาเด็กให้เจอ และยังเป็นการกระตุ้นสังคมว่าการตามหาเด็กหายเป็นภารกิจที่ทุกคนในสังคมจะมีส่วนร่วมกัน เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็ก คนให้ปลอดภัยและพากลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว




ทั้งนี้จากสถิติเด็กหาย โดยมูลนิธิกระจกเงา ที่ผ่านมาแต่ละปี พบว่าเด็กที่หายออกจากบ้าน จะเป็น ด.ญ. มากกว่า ด.ช.ถึง 3 เท่า และส่วนใหญ่อายุระหว่าง 11 -15 ปี สาเหตุปัจจัยหลัก คือ ปัญหาครอบครัว ถูกกล่อลวงให้ออกจากบ้าน หรือตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ ถูกลักพาตัว พรากไปจากอ้อมอกพ่อแม่ เพื่อนำไปแสวงหาประโยชน์

โดยเด็กอายุ 0 ถึง 18 ปี หายไปในปี 2559 จำนวน 418 คน ปี 2560 จำนวน 403 คน ปี 2561 จำนวน 309 คน และล่าสุดปี 2562 ถึงเดือน ก.ค. มีเด็กหาย 153 คน แต่ละปี สามารถติดตามเด็กสูญหายได้สำเร็จ ร้อยละ 90 ขณะเดียวกัน สถิติของเด็กที่หายมายาวนานกว่า 5 ปี จนถึงขณะนี้ยังหาไม่พบ มีประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์