น้ำตาไหลพราก ต้องอดทนกว่าจะมีวันนี้ สำหรับพิธีกรและนักแสดง "โอ๋ ภัคจีรา" ที่ในอดีตปากกัดตีนถีบทำงานเป็นกำลังสำคัญให้กับครอบครัว ไม่มีบ้าน ต้องทำงานเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่วัยรุ่น ถึงแม้จะลำบาก แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านมาทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรมากมาย จากการที่ไม่มีเงิน บ้านจนมาก โดยบอกเล่าเรื่องราวในรายการ แฉ ด้วยรอยยิ้มว่า
มดดำ : เราเห็นผู้หญิงคนนี้หน้าจอจะเห็นว่าสุขภาพจิต สุขภาพทางความคิดดี คิดบวกตลอด ทำได้อย่างไร?
โอ๋: ไม่รู้เราจะทุกข์ไปทำไม ไม่ชอบทุกข์น่ะ
ดาด้า : โอ๋จัดการความคิดยังไง?
โอ๋ : จัดการความคิดง่าย มองบวกจริงๆ คือ ถ้าชีวิตมันเคยทุกข์มาแล้ว เรื่องหลังจากนี้มันจะเป็นเรื่องบวกทั้งนั้นเลย ไม่มีอะไรที่โอ๋ทุกข์เลย เจ็บป่วยก็แล้ว คลอดลูก ชีวิตบ้านมันรันทด คือ ชีวิตต่อจากนี้มันคือกำไรจริงๆ
มดดำ : คำว่าจนสุดๆของโอ๋ สมัยก่อนมันเป็นยังไง?
โอ๋ : คือมันไม่มีเลยไม่ได้พูดตลกนะ ไม่มีขนาด 1. ไม่มีบ้าน เราก็ต้องไปอาศัยคนอื่นอยู่ 2.เวลาโอ๋ไปแคสงาน เราก็หวังนะ บางทีมันต้องใช้เงินออกไปก่อน คือ ต้องนั่งรถเมล์ไป พอไปถึงตรงนั้น โอ๋เคยเกิดไม่สบาย ไปโรงพยาบาล โอ๋ ยังไม่มีเงินจ่ายเลย ทั้งแม่-น้อง ก็ รออยู่ที่บ้าน น้องยังมีน้องเล็กๆ อีกคนนึงด้วย คือ การที่ไม่มี มันไม่มีจริงๆ
ดาด้า : โอ๋ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว?
โอ๋ : ใช่ ตอนนั้นออกจากบ้านมาหางานทำ ทำอะไรก็ได้ที่ได้เงิน ตอนแรกเลย คือ โอ๋ไปเดินแบบห้างนะ หวังว่าจะไปสมัครงานเป็นพนักงานห้าง แต่เห็นป้ายการประกวด อันนี้พูดจริง ป้ายบอกว่าได้เงินรางวัลกว่าล้าน มิสฟิวเจอร์โมเดลคอนเทสต์ จำได้เลย สมัครเลยจ้า หวังว่าจะได้เงินล้าน
เชาเชา : แล้วตอนนั้นคิดว่าเราสวยมั้ย?
โอ๋ : ไม่ได้คิดเลย คิดว่ายังไงก็ได้ให้ได้เงิน (หัวเราะ) เข้าใจคำนี้มั้ย
มดดำ : ในกระเป๋ามีเงินเท่าไร?
โอ๋ : ไม่มีเลยมด คือ มันไม่มีจริงๆ เอาหน้าเข้าสู้เลย
ดาด้า: แล้วประทังชีวิต กินข้าวยังไง?
โอ๋: โชคดีตอนนี้มีหนังสือนิตยสาร วัยน่ารัก แล้วได้ถ่ายแบบเสื้อผ้า ประทังการทำมาหากิน
มดดำ : ทำไมถึงยิ้มได้ทุกสิ่งทุกอย่าง?
โอ๋ : เมื่อก่อนก็ไม่เป็นแบบนี้นะ พอเราผ่านชีวิตช่วงเวลาที่เราวิกฤติ เราลำบาก เวลาลืมตาอ้าปากมันคือสวรรค์ เหมือนให้เราเกิดมาอีกรอบนึง เหมือนเกิดใหม่ทุกวัน ไม่รู้เราจะเศร้าไปทำไม พรุ่งนี้เราอาจจะไม่ได้อยู่แล้วก็ได้ ตักตวงความสนุก ไม่อยากจดจ่อกับความทุกข์
มดดำ: ถ้าคุณอยู่ต่างจังหวัด คุณยังเก็บผักกินได้ แต่ชีวิต โอ๋ ที่ลำบากแบบที่ไม่มี เป็นยังไง?
โอ๋: เราเหมือนโชคดีด้วย ก็อย่างที่ว่าโอ๋ไปห้างฯ ว่าจะสมัครงานก็กลับเจอป้ายประกวด แล้วเข้าไปสมัคร เชื่อมั้ยได้ที่ 1 แต่ไม่ได้เงินล้าน ที่เขาบอกมูลค่าเป็นล้าน คือ ทั้งงาน (หัวเราะทั้งรายการ) ได้จริงๆ 2หมื่นบาท และโทรศัพท์ 1 เครื่อง จำได้เลยโทรศัพท์แพงยี่ห้อหนึ่ง แล้วขายต่อด้วย แต่ก็ได้ไม่กี่พันบาท แต่เราก็แอบถาม อ้าว ไหนว่าที่หนึ่งได้เงินล้าน เขาบอกว่ามูลค่าทั้งงาน (หัวเราะ) แล้วหลังจากงานนั้น โอ๋ ได้ตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์ ต่ออีก อันนี้ อยู่ดีๆ จากที่จะได้เป็นพนักงานห้าง ก็พลิกชีวิตเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงเลย จากช่วงเวลานั้นที่แคสงาน มันทรมานจริงๆ เงินก็ไม่มี แล้วตอนนั้นเราอยู่แถวดาวคะนอง ต้องเข้ามาเทสต์งานแถวลาดพร้าว แล้วต้องนั่งรถเมล์ไกลมาก หลายต่อ
เชาเชา : ไกลอ่ะ โห! สุดยอดมากอ่ะ นั่งสาย 37 แล้วต้องมานั่งสาย 8 ท้อไหมเวลานั่งรถเมล์ไกลๆ
โอ๋ : โห! ท้อ แล้วก็ต้องยืนโหนรถเมล์ แต่งตัวสวย แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฮิตของลูกครึ่ง หน้าหมวยๆ อย่างเรา มันก็ยากจริงๆ
เชาเชา : ต้องชุดสวยๆ ขึ้นรถเมล์ ๆได้นั่งบ้างมั้ย?
โอ๋ : ไม่ค่อยได้นั่ง ยืนตลอด
มดดำ : เมื่อก่อนเคยสงสัยว่า ทำไม โอ๋ ชอบรับดาราเด็กๆ ขึ้นรถตลอด เอาเด็กไปกินหรือเปล่า
โอ๋ : ไม่ได้เอาไปกิน
มดดำ : โอ๋มันบอกว่า แกไม่เคยเข้าใจหรอก สมัยก่อนถ่ายละครทีไม่มีรถมา ต้องติดอาศัยเขา
โอ๋ : จริงๆ เห็นดารารุ่นเด็กๆ ไม่มีรถมากองถ่าย สงสารนะ เคยคุยกับหนูเล็ก ตอนนั้นหนูเล็ก ไม่มีรถ เขาเกรงใจเรา โอ๋ บอกไม่เป็นไร เพราะเราเคยอาศัยคนอื่นออกไป
มดดำ : เป็นดาราแล้วก็ยังไม่มีบ้านไม่มีรถ
โอ๋ : ไม่มี เช่าหอเดือนละ 3,500 บาท จนมีเงินพอที่จะซื้อบ้าน สมุติว่าราคาบ้าน 2ล้าน เรามีประมาณ 1 ล้าน ยอมกู้ซื้อเลย
ทั้งนี้ "โอ๋" ยังสามารถส่งน้องเรียนต่อต่างประเทศได้อีกด้วย ถึงแม้เธอจะมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ มีสามีที่ร่ำรวย แต่ก็ยังต้องเผชิญการต่อสู้จากโรคภัยไข้เจ็บ แต่เธอก็โชคดี รักษาโดยการผ่าตัดแล้วหาย ทั้งๆที่ โรคโรคมัยแอสทีเนีย กราวิส หรือ โรคเอ็มจี (โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง) ไม่ได้รักษาแล้วทุกคนจะหายขาดได้ เรียกได้ว่ากว่าจะมีวันนี้ มีชีวิตที่ดีขึ้นไม่ง่ายเลย
Cr.ohpak รายการ แฉ