นายกฯลั่นทุจริตว่าตามหลักฐานผิดต้องถูกลงโทษ

2019-07-26 18:50:40

นายกฯลั่นทุจริตว่าตามหลักฐานผิดต้องถูกลงโทษ

Advertisement

นายกฯแจงแนวทางการป้องกันทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานของภาครัฐ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากพบความผิดก็ต้องถูกลงโทษ อย่าเอามาพูดกันก่อน เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวาย

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันว่า รัฐบาลได้วางแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น คณะกรรมการไตรภาคีจะเป็นผู้พิจารณา แต่รัฐบาลพร้อมที่จะรับไปดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะการปรับค่าแรงจะกระทบผู้ประกอบการและราคาสินค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ปัญหา จะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรมีการปรับยุทธศาสตร์ในเรื่องของการลงทุน เนื่องจากขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม มีการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น

“ขอย้ำว่า ต่างประเทศรัก และชอบประเทศไทย แต่ไม่ชอบการประท้วง ซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความสงบเรียบร้อย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนและการท่องเที่ยว”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การสร้างโรงแรมพื้นที่บนเขา ไทยไม่สามารถให้สิทธิประโยชน์เหล่านั้นได้ทั้งหมด ขณะที่ไทยเองยังมีปัญหาเวลาจะมีการลงทุนใหม่ๆ โดยเกิดจากความไม่เข้าใจของประชาชน ดังนั้นทุกอย่างต้องมองในภาพรวมก่อนว่าอะไรจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม รัฐบาลต้องเตรียมการปฏิรูปทั้งระบบให้ทันการเปลี่ยนแปลง และทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือ เพราะถ้าไม่ร่วมมือก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้งนี้ไทยก็ต้องสร้างการลงทุนและโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ไทยมีความเจริญเติบโตสูงขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า มาตรการสำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะการผลักดันในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ชี มูล เข้าสู่ภาคเกษตรในทุกหมู่บ้าน แต่ปัญหาที่พบคือไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ แต่รัฐบาลก็ยังคงต้องเดินหน้าศึกษาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไปเช่นเดียวกับปัญหาของเกษตรกร ที่วันนี้เกษตรกรทำนา แต่ไม่ได้เงิน เพราะมีแต่หนี้ ที่ไปกู้ยืมมา ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้าไปดูแลในเรื่องนี้ ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อลดปัญหาหนี้สินของเกษตรกร รวมถึงพิจารณาถึงปริมาณการผลิต และความต้องการของตลาด ให้มีความสมดุลกัน

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่สมาชิกอยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนงานการทูตเชิงรุก โดยเน้นกลุ่มประเทศตะวันกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอยากให้รัฐบาลเชิญชวนเข้ามาลงทุนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการขยายสนามบินที่นราธิวาส ก็ไม่ต้องกังวล เพราะตนมีความสนิทสนมกับผู้นำหลายประเทศด้วยกัน และซาอุดิอาระเบีย ก็ได้เชิญตนเดินทางไปเยือน รวมถึงเยือนกลุ่มประเทศอาหรับด้วย เชื่อว่าจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้น รวมถึงเรื่องแรงงานด้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง แนวทางการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งมีข้อเรียกร้องจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่าการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากพบว่ามีความผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเอามาพูดกันก่อน เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงาน ว่า รัฐบาลมีแผนปฏิรูปพลังงาน ที่ใช้ในการควบคุมอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลให้ความสำคัญการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งในด้านน้ำมัน ก็ส่งเสริมการใช้ บี 20 มากขึ้น และจะส่งเสริมให้นำไบโอดีเซลไปใช้ในระบบขนส่งมวลชน ส่วนการส่งเสริมการใช้ยางพารา ทางรัฐบาลได้ติดต่อกับกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งมีความสนใจที่จะลงทุนนำยางพาราไปทดสอบการทำถนน